รีเซต

จิ๋วแต่แจ๋ว! เปิดตัว DJI Osmo Nano กล้อง Action Cam ตัวเทพที่เล็กเท่าหัวแม่มือ

จิ๋วแต่แจ๋ว! เปิดตัว DJI Osmo Nano กล้อง Action Cam ตัวเทพที่เล็กเท่าหัวแม่มือ
EntertainmentReport1
9 ตุลาคม 2568 ( 22:03 )
15

ทุกคนคงคุ้นเคยกับกล้อง Action Camera ที่ถ่ายได้มันส์สุดเหวี่ยง แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็ยังใหญ่และเทอะทะเกินกว่าจะ "ซ่อน" หรือ "ติด" ไปได้ทุกที่ใช่ไหมครับ? ลืมภาพกล้องใหญ่ ๆ ไปได้เลย เพราะล่าสุด DJI ได้เปิดตัวนวัตกรรมที่มาปฏิวัติวงการ Vlogging และ Content Creation นั่นคือ DJI Osmo Nano!

 

 

Osmo Nano ไม่ใช่แค่กล้องแอคชันที่เล็กที่สุด แต่ยังอัดแน่นด้วยสเปคระดับโปรที่ท้าชนรุ่นใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ ด้วยดีไซน์แบบโมดูลาร์ที่ฉีกกฎเดิม ๆ ทำให้กล้องตัวนี้กลายเป็นอาวุธลับที่ครีเอเตอร์ต้องมีติดตัว วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของเจ้าจิ๋วตัวนี้กัน

เล็กกว่าที่คิด แต่สเปคใหญ่กว่าที่ฝัน

 

 

จุดเด่นอันดับหนึ่งของ Osmo Nano คือขนาดตัวกล้องหลัก (Camera) ที่เล็กจิ๋วสุด ๆ โดยมีน้ำหนักเพียงแค่ 52 กรัม เท่านั้น! มันเล็กพอที่จะติดไว้บนปกเสื้อ, หมวกกันน็อก, หรือแม้แต่ปลอกคอสัตว์เลี้ยงของคุณได้อย่างแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนัก 

หัวใจของความอเนกประสงค์นี้คือ ดีไซน์แบบแม่เหล็กสองด้าน (Dual-Sided Magnetic Design) ทำให้ตัวกล้องหลักสามารถถอดออกจาก Vision Dock (แท่นหน้าจออเนกประสงค์) ได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถติดตั้งกล้องในมุมมองสุดสร้างสรรค์ที่กล้องทั่วไปทำไม่ได้!

จุดที่อัปเกรดใหม่: พลังของเซนเซอร์ 1/1.3 นิ้ว

ถึงตัวจะเล็ก แต่คุณภาพไม่เล็กตาม! นี่คือสิ่งที่ทำให้ Osmo Nano แตกต่างจากกล้องจิ๋วรุ่นอื่น ๆ ในตลาด

 

 

  • เซนเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว: นี่คือขนาดเซนเซอร์ "Next Gen" ที่ใหญ่กว่ากล้องแอคชันรุ่นเล็กทั่วไปอย่างชัดเจน ซึ่งหมายถึงการ เก็บแสงได้ดีขึ้น และมอบ คุณภาพของภาพที่คมชัด แม้ในสภาพแสงน้อย
  • วิดีโอ 4K/60fps และ Slow Motion ระดับโปร: Osmo Nano รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และยังทำ Slow Motion ได้ถึง 4K/120fps และ FHD/240fps สำหรับการเก็บภาพช้าแบบดราม่า 
  • ภาพนิ่ง 35MP: สามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงถึง 35 ล้านพิกเซล (6880×5160) ทำให้ภาพคมชัดและมีรายละเอียดสูงมาก
  • สี 10-bit D-Log M: สำหรับมืออาชีพที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับสี (Color Grading) กล้องนี้รองรับ 10-bit D-Log M color profile ซึ่งช่วยปลดล็อกโทนสีและความยืดหยุ่นระดับ HDR ให้กับการทำคอนเทนต์ของคุณ 

ฟีเจอร์กันสั่นที่มั่นคงดุจภูผา

DJI ไม่เคยทำให้ผิดหวังเรื่องกันสั่น! Osmo Nano มาพร้อมกับ:

  • RockSteady 3.0: ระบบกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) เจเนอเรชันล่าสุดที่ช่วยให้วิดีโอราบรื่นแม้ในกิจกรรมที่โลดโผนที่สุด
  • HorizonBalancing: ระบบที่ช่วยรักษาระดับเส้นขอบฟ้าให้ตรงอยู่เสมอ แม้กล้องจะเอียงไปถึง ±30° ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าวิดีโอจะเอียงหรือต้องเสียเวลามาปรับแก้มุมมองในภายหลัง

 

 

Vision Dock: แท่นควบคุมอัจฉริยะ

นี่คือ "คู่หู" ที่เปลี่ยน Osmo Nano ให้กลายเป็นกล้อง Vlog ที่สมบูรณ์แบบ

  • หน้าจอสัมผัส OLED 1.96 นิ้ว: Vision Dock มาพร้อมหน้าจอสัมผัสที่สว่างสดใส (ความสว่างสูงสุด 800 nits) ช่วยให้คุณสามารถดูภาพ Live View และตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องพึ่งโทรศัพท์
  • แบตเตอรี่เสริม (Extended Battery Life): เมื่อใช้ร่วมกับ Vision Dock กล้องสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 200 นาที (ราว 3 ชั่วโมง) ทำให้การถ่ายวิดีโอขนาดยาวไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
  • กันน้ำและกันละออง: ตัวกล้องหลัก กันน้ำลึก 10 เมตร (โดยไม่ต้องใส่เคสเสริม) ส่วน Vision Dock นั้นมีคุณสมบัติ กันละอองน้ำ IPX4 ทำให้ไม่ต้องกลัวฝนตกปรอย ๆ

 

 

ฟีเจอร์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร (The Unique Selling Points)

  1. Hands-Free Shooting (การถ่ายแบบไร้มือ): ด้วยดีไซน์แม่เหล็กและขนาดที่เล็ก ทำให้คุณสามารถติดตั้งกล้องไว้ที่ใดก็ได้ เพื่อบันทึกภาพแบบ POV (Point-of-View) ที่น่าสนใจที่สุด

  2. Gesture & Motion Control: ควบคุมกล้องได้ง่ายขึ้นด้วยการเคลื่อนไหว! สามารถสั่งเริ่มถ่ายหรือหยุดถ่ายได้ด้วยการ พยักหน้า หรือ แตะกล้องเบา ๆ ทำให้การถ่ายเซลฟี่หรือ Vlogging ยามเดินทางสะดวกขึ้นมาก ซึ่งจะใช้ได้เมื่ออยู่ในโหมดอัตโนมัติ

  3. Sports Dashboard: ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มข้อมูลเชิงลึกของการผจญภัยลงในวิดีโอของคุณ (Overlay) เช่น ข้อมูลความเร็วหรือระยะทาง ทำให้คอนเทนต์ Action ของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น

  4. หน่วยความจำในตัว (Built-in Storage): ตัวกล้องมีหน่วยความจำภายในให้เลือก 64GB หรือ 128GB และยังรองรับการ์ด microSD เพิ่มเติมได้สูงสุด 1TB ทำให้เริ่มใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อเมมโมรีการ์ดแยก

 

 

DJI Osmo Nano เหมาะสำหรับใคร?

  • Vlogger/Content Creator สายลุย: ที่ต้องการคุณภาพระดับโปร 4K/60fps ในตัวกล้องที่พกพาไปได้ทุกที่
  • สายท่องเที่ยว/Hands-Free: ผู้ที่ชอบเก็บภาพแบบ POV ในขณะที่มือยังว่าง (เช่น ปีนเขา ขี่จักรยาน หรือเดินสำรวจตลาด)
  • นักกีฬา Extreme: ที่ต้องการกล้องที่สามารถติดในมุมที่อันตรายหรือยากจะเข้าถึง ด้วยคุณสมบัติกันน้ำและกันสั่นที่ยอดเยี่ยม
  • ผู้ใช้งานใน Ecosystem ของ DJI: สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน DJI Mimo เพื่อการตัดต่ออย่างรวดเร็ว (One-Tap Editing) และการเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูง Wi-Fi 6.0

 

 

ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย 

DJI Osmo Nano วางจำหน่ายในรูปแบบ Standard Combo ซึ่งประกอบด้วยตัวกล้องและ Vision Dock โดยมีราคาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในประเทศไทยดังนี้:

  • DJI Osmo Nano Standard Combo (64GB): ฿9,300 บาท
  • DJI Osmo Nano Standard Combo (128GB): ฿10,700 บาท

(ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชันและตัวแทนจำหน่ายในประเทศ)

Osmo Nano คือคำตอบของครีเอเตอร์ที่ต้องการความเล็กเบา แต่ไม่ประนีประนอมกับคุณภาพ นี่คือกล้องแอคชันที่จะพาคุณไปสู่มุมมองใหม่ ๆ ในการเล่าเรื่องของเพื่อนๆ ครับ!

Credit : dji.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง