กกต.ถก "วิษณุ" วันนี้ ชงเองแก้พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.จำนวน 35 มาตรา บัตร 2 ใบ-สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์
กกต.ถก “วิษณุ” วันนี้ ชงเองแก้พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.จำนวน 35 มาตรา บัตร 2 ใบ-สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์-แบ่งใหม่ 400เขต-พ่วงปรับไพรมารีโหวตให้พรรคคล่องตัวมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30. น. ทั้งนี้ กกต.จะได้มีการนำเสนอร่างแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่ทางสำนักงานฯได้มีศึกษาและยกร่างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นร่างแก้ไขพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่จะเสนอมีด้วยกัน 35 มาตรา เป็นการแก้ไขเกี่ยวกับการให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จำนวนส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน การคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จะให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งทั้งประเทศมารวมกันหารด้วย 100 เพื่อให้ได้คะแนนต่อส.ส. 1 คนและหากจัดสรรแล้วยังได้ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบ 100 คน ก็จะจัดสรรให้พรรคที่เหลือคะแนนเศษมากตามลำดับ การแบ่งเขตใหม่ 400 เขตให้เสร็จใน 90 วัน ส.ส.เขตใช้เบอร์เดียวกับเบอร์พรรค การลดเวลาลงคะแนนเหลือ 16.00 น.เช่นเดิม เพิ่มกรรมการประจำหน่วยจาก 5 คนเป็น 9 คน กำหนดจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต่อหน่วย 800 คน เป็นต้น
นอกจากนี้ อาจหารือถึงข้อติดขัดของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ที่กกต.ได้รับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมือง คือ กรณีการทำไพรมารีโหวต เพื่อคัดเลือกและส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง เพราะนับแต่ใช้บังคับพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จนปัจจุบัน การจัดตั้งสาขาพรรค การหาสมาชิกพรรค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการทำไพรมารีโหวต แต่ละพรรคยังเป็นปัญหา สมควรต้องมีการแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่
โดยก่อนหน้านี้นายทะเบียนพรรคการเมืองได้เสนอแนวทางแก้ไขให้ทางสำนักงานฯไปพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์ที่กำหนดให้พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครได้ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้งนั้นว่า หากแก้ไขเป็นพรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครได้ต้องมีสาขาพรรคการเมืองจังหวัดละ 1 แห่ง ประชุมร่วมกับสมาชิก 500 คนสามารถลงคะแนนเลือกผู้สมัครในทุกเขตเลือกตั้งของจังหวัดตามบัญชีที่คณะกรรมการสรรหาส่งมาได้ น่าจะทำให้กระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรคคล่องตัวขึ้น จากนั้นจะนำประเด็นหารือกลับมาเสนอต่อที่ประชุมกกต. ก่อนทำการยกร่างแก้ไขก