GBS ชี้ทองยังร้อนแรงต่อ จับตาชัตดาวน์สหรัฐฯ มองกรอบ 4,100–4,250 $

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากที่สหรัฐฯ ขู่จะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อตอบโต้การที่จีนออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยจีนได้แสดงท่าทีพร้อมตอบโต้กลับ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อเนื่อง เพิ่มความกังวลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนการลงทุนในทองคำ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนนี้ โดยมีความคาดหวังว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญ คือ ธนาคารกลางจีน (PBOC) รายงานการถือครองทองคำของจีน ณ สิ้นเดือนก.ย.68 อยู่ที่ 74.06 ล้านออนซ์ เพิ่มขึ้นจาก 74.02 ล้านออนซ์ในเดือนส.ค. เนื่องจาก PBOC เพิ่มการซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน สะท้อนถึงความต้องการกระจายความเสี่ยงจากการถือครองเงินตราต่างประเทศ และทิศทางความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีอ่อนลงต่อจีน พร้อมส่งสัญญาณเปิดทางสู่การเจรจา
ส่วนทางโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนธ.ค.69 จาก 4,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็น 4,900 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยอ้างถึงการไหลเข้าของเงินทุนสู่กองทุน ETF ทองคำในภูมิภาคตะวันตกอย่างแข็งแกร่ง และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจะเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ความรุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในฉนวนกาซา เริ่มผ่อนคลายลง หลังบรรลุข้อตกลงครอบคลุมถึงการหยุดยิงถาวร การถอนกำลังของอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา การนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไป การเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ทั้งสองทิศทาง และการแลกตัวนักโทษ ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ ยังคงต้องจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจถูกเลื่อนออกไป หากสถานการณ์ชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป และ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการกล่าวเปิดการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชน จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 4,100-4,250 ดอลลาร์/ออนซ์ พร้อมแนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อ เมื่อราคาทองคำปรับตัวลง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
