หายไป 8 ปี "K-POP" คัมแบคจีน กระชับสัมพันธ์

จีนเปิดประเทศให้ K-POP ให้ไอดอลจากเกาหลีใต้กลับไปทำกิจกรรมได้อีกครั้ง
หลังจากที่โดนแบน โดนปิดกั้นมานานกว่า 8 ปี
วงการบันเทิงของเกาหลีใต้ได้รับการต้อนรับอีกครั้ง
หลังจากกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างหนักจากปมระหว่างประเทศ
เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูง และวันนี้ทั้งสองประเทศ
เริ่มกลับมากระชับความสัมพันธ์อันดีอีกครั้ง
ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าจากภาษีทรัมป์
ทางการจีนได้เริ่มผ่อนคลายต่อวงการ K-POP
หลังจากที่มีการจำกัดอย่างเข้มงวดด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นานกว่า 8 ปี
อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักข่าว CNBC ที่รายงานเรื่องนี้
ซึ่งระบุว่าการผ่อนปรนและท่าทีครั้งนี้
นับเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ท่ามกลางบรรยากาศของสงครามการค้ากับสหรัฐ
และการเผชิญกับกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอของจีน
ยืนยันได้จากเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีรายงานว่านักร้องไอดอลจาก K-POP
เริ่มประกาศการเดินทางกลับมาทำกิจกรรมในประเทศจีนอีกครั้ง
รวมถึงการเล่นคอนเสิร์ต การโปรโมทต่างๆ
เช่น การประกาศว่าวง K-pop เกาหลี Epex
จะจัดคอนเสิร์ตในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน วันที่ 31 พฤษภาคม 2568
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่วงไอดอลจะจัดโชว์คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2559
นอกจากนี้ตามรายงานของสมาคมผู้ผลิตบันเทิงเกาหลีใต้
ระบุว่า กำลังจะมี คอนเสิร์ต Dream Concert ซึ่งเป็นงาน K-pop รายปีที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้
กำหนดจัดงานในจีน วันที่ 26 กันยายนนี้ ณ สนามกีฬาในมณฑลไห่หนาน
เป็นงานใหญ่ที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 40,000 คน
สอดคล้องกับข้อมูลจาก The Korea Time ที่เขียนรายงานข่าวว่า
ไอดอล K-pop ได้เริ่มทยอยกลับมาทำกิจกรรมโปรโมทแบบพบหน้ากันอีกครั้งในจีนแล้ว
หนึ่งในนั้นคือ Mark วง NCT ภายใต้สังกัด SM Entertainment
ได้ปรากฏตัวในห้างสรรพสินค้าในเมืองกว่างโจว
ตั้งแต่วันที่ 19 ถึง 25 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อโปรโมตอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก
และมีแฟนๆ มากกว่า 4,000 คนรวมตัวกันต้อนรับอย่างอบอุ่น
ศิลปินคนอื่นๆ ก็เช่นกัน ในเดือนมีนาคม NCT WISH
ได้เดินทางไปเซี่ยงไฮ้เพื่อโปรโมตมินิอัลบั้ม
และจัดงานแถลงข่าวโดยมีสื่อท้องถิ่นเข้าร่วมประมาณ 60 แห่ง
วงเกิร์ลกรุ๊ป IVE จัดงานแจกลายเซ็นแฟนคลับที่เซี่ยงไฮ้ในเดือนเดียวกัน
ขณะที่ TWICE ก็จัดงานลักษณะเดียวกันนี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์
รวมไปถึง นักร้องเดี่ยว คิมแจจุง ก็ได้พบปะกับแฟนๆ ที่เมืองฉงชิ่งในช่วงเวลาเดียวกันเช่นกัน
การเปิดประตูให้กับ วงการบันเทิงเกาหลีใต้ อีกครั้งเช่นนี้
หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ
คึอ จีน และเกาหลีใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง จีนและสหรัฐฯ
และขณะเดียวกัน จีนก็ได้กระตุ้นและฟื้นกำลังซื้อในประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จีนกำลังมุ่งไปที่การฟื้นฟูความต้องการภายในประเทศ
เพื่อตอบโต้แรงกดดันจากรัฐบาลของทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา
และเร่งปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
เป็นกลยุทธ์เพื่อลดความขัดแย้งทางการทูตที่ไม่จำเป็น
และเอาชนะพันธมิตรของอเมริกา ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน
ยกเว้นสหรัฐอเมริกา
มุมมองเรื่องนี้จากทางนักวิเคราะห์ จาก CGS International Securities มองว่า
นี่ คือ จุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมบันเทิงในจีน
และยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายใหม่ของรัฐบาลปักกิ่ง
ที่เน้นมุ่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศที่กำลังซบเซา
รัฐบาลจีนจึงต้องเริ่มส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรม
เช่น การจัดคอนเสิร์ต เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว โรงแรม และการค้าท้องถิ่น
นอกจากนี้อีกเหตุผลหนึ่งที่ K-pop กลับมาได้รับความสนใจในจีนก็คือ
เป็นภาคธุรกิจที่ ไม่ถูกกระทบโดยตรงจากภาษีนำเข้า
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ของ Shinhan Securities ระบุว่า
แม้ตลาดทั่วโลกตอนนี้มีความผันผวนจากภาษี
แต่มองไปที่วงการบันเทิงและสื่อนั้นยังไม่ได้รับผลกระทบ
การสตรีม คอนเสิร์ต และคอนเทนต์ของแฟน ๆ ผ่านแพลตฟอร์มล้วนเป็นดิจิทัล
ไม่มีตัวตนจริง จึงไม่ถูกเก็บภาษีข้ามพรมแดน
และแม้จะมีการซื้ออัลบั้มหรือของที่ระลึก แต่หน่วยราคาต่ำ
และแฟนคลับก็มีความจงรักภักดีสูง จึงแทบไม่กระทบ
อุตสาหกรรมเพลงไม่ถูกผูกติดกับห่วงโซ่อุปทานโลก
และไม่อ่อนไหวต่อมาตรการกีดกันทางการค้า
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Citi ชี้ว่าท่าทีผ่อนคลายของจีนต่อ K-pop
อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการ ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
เช่น เกาหลีใต้ ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ
โดยการทูตผ่านวัฒนธรรม (Cultural Diplomacy)
ด้านหุ้นในกลุ่ม K-POP โดยเฉพาะ “Big Four”
4 บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี HYBE, JYP, SM, YG
ในช่วงต้นปีนี้ 2568 ราคาหุ้นของ 3 ใน 4 บริษัทกลับเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
โดยมอร์แกน สแตนลีย์ มองว่าการเปิดตลาดจีนจะเป็นปัจจัยเร่งรายได้ที่ทรงพลัง
แม้จะค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดประเทศแบบหลายเฟส
และจะเป็นแรงผลักดันรายได้ระยะยาวของอุตสาหกรรม K-pop ได้อย่างดี
จุดเริ่มต้นของการถูกจำกัดของวงการบันเทิงเกาหลีในจีน
อ้างอิงจาก สื่อเกาหลี ฮันคยอง ซึ่งได้รายงานบทความเอ็กซ์คลูซีฟ
ระบุว่ารัฐบาลจีน กำลังวางแผนที่จะยกเลิกการแบนเนื้อหาเกาหลี
หลังจากสั่งห้ามมานานถึง 8 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2560
ซึ่งส่งผลให้แฟนคลับชาวจีน ต้องบินไปตามดูคอนเสิร์ตไอดอลที่ตัวเองรัก
ในประเทศอื่นๆทั่วโลกแทน เช่น ประเทศไทย เนื่องจากมีฟรีวีซ่าด้วย
รายงานระบุว่า เกาหลีใต้ถูกต่อต้านหรือคว่ำบาตรเนื้อหาทางวัฒนธรรม
เพราะจีนต้องการตอบโต้การติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD
ที่ติดตั้งในเมืองซองจู ทางตอนกลางของเกาหลีใต้
แต่ล่าสุดจีนและเกาหลีใต้ต่างก็จะเป็นเจ้าภาพและประธานหมุนเวียน
ของการประชุมสุดยอด APEC ในปีนี้และปีหน้า
และมีความเคลื่อนไหวในแง่การกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้น
ทางการจีนได้เปิดเผยกับสื่อว่า จีนได้วางแผนที่จะขยายการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
โดยเริ่มจากการส่งคณะผู้แทนทางวัฒนธรรมพลเรือนไปที่เกาหลีเมื่อเดือนมีนาคม
และจะเปิดกว้างด้านวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบภายในครึ่งปีแรกของปีนี้
ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงการยกเลิกมาตรการแบน K-คอนเทนต์
ตั้งแต่ละคร ภาพยนตร์ เกม และการแสดงคอนเสิร์ต
โดยที่ผ่านมาทางสถานทูตเผยว่าได้มีร้องขอให้รัฐบาลจีน
ยกเลิกการต่อต้าน THAAD จากจีนอย่างต่อเนื่อง
และได้รับการตอบสนองเชิงบวก พร้อมเสริมอีกว่า
คำสั่งห้ามที่ว่านี้ ไม่ใช่กฎระเบียบอย่างเป็นทางการ ที่จีนได้ออกประกาศไว้ในที่ใดที่หนึ่ง
ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงอาจจะไม่มีการประกาศยกเลิก
แต่เราสามารถเห็นผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
และสิ่งดีจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ
โดยสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์อนาคต KDB ในเครือธนาคาร Industrial Bank of Korea
ประเมินว่า ความเสียหายต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศในช่วงการแบน
ในปี 2560 สูงถึง 22 ล้านล้านวอน หรือราว ๆ กว่า 5 แสนล้านบาท
ขณะที่สถาบันวิจัยอุตสาหกรรมประเมินไว้ที่ 15 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากสินค้าอื่นๆที่เคยได้รับความนิยมจากอิทธิพลจาก K-POP
เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และอาหาร
ประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกเพลงที่สำคัญของเกาหลีใต้
โดยมียอดขายอัลบั้มเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ
และยังเป็นตลาดดนตรีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย
ดังนั้นวันนี้เมื่อ K-POP ได้กลับสู่อ้อมอกแฟนคลับชาวจีนอีกครั้ง
ย่อมสร้างความหวังว่าจะทำให้อุตสาหกรรมเพลงของเกาหลีใต้
กลับมาแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งนึง