รีเซต

พลังแห่งผู้นำหญิง โชว์วิสัยทัศน์ ก้าวข้ามกรอบ ฝ่าฟันความท้าทายเศรษฐกิจไทย

พลังแห่งผู้นำหญิง โชว์วิสัยทัศน์ ก้าวข้ามกรอบ ฝ่าฟันความท้าทายเศรษฐกิจไทย
TNN ช่อง16
9 กันยายน 2568 ( 18:03 )
20

เพราะปัจจุบัน ผู้หญิงได้ก้าวข้ามข้อจำกัด และการถูกแบ่งแยก ขึ้นมาเป็นผู้นำ และมีบทบาทในธุรกิจ วงการต่างๆ ไม่แพ้เพศอื่นๆ ในงานสัมมนา “Transforming Thailand ปรับโฉมไทย สู่อนาคตและความยั่งยืน” ของ TNN ช่อง 16 ในโอกาสครบรอบ 18 ปี ก็ได้จัดเวทีเสวนา Women Roundtable for Young Leaders พลังแห่งผู้นำหญิง ฝ่าฟันความท้าทายเศรษฐกิจไทย 

ซึ่งบนเวทีนี้ ต่างก็มีผู้หญิงในหลากหลายวงการ ที่มาโชว์วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ ความสำเร็จ และปลุกพลังความเป็นผู้หญิง ที่ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัด และความคาดหวังทางเพศต่างๆ ไปได้ 


ก้าวข้ามกรอบของผู้หญิงที่ถูกวาง และสร้างความเชื่อใจ 

ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นธุรกิจที่มีผู้ชายเป็นจำนวนมาก ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์จำกัด (มหาชน) เล่าถึงการก้าวเข้ามาเป็นผู้นำหญิงในปัจจุบันว่า ผู้คนมักมีความคาดหวังว่าผู้หญิงต้องดูดี และพร้อมตลอดเวลา 

“เพราะคนคาดหวังว่าผู้หญิงต้องดูดี ถ้าเราขึ้นเวทีกับผู้ชาย ถ้าเราไม่แต่งหน้า เราจะดูโทรม บุคลิกมีความสำคัญ ต้องสวยตลอดเวลา ความคาดหวังของสังคม สร้างความท้าทาย อันนี้เป็นตัวอย่างที่จับต้องได้” โดย ดร.เกษรา ยังชี้ว่า ธุรกิจของเธอซึ่งเป็น housing brand เป็นการสร้างบ้าน มีสายพานการผลิต ดีลกับผู้รับเหมา ซึ่งเป็นสายงานที่มีผู้ชาย และมักถูกมองด้านลบจากความเป็นผู้หญิง “เราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เราไม่ได้เป็นแบบนั้น จริงๆ ความท้าทายมาจากเรื่องข้างนอก ไม่ใช่เรื่องข้างในตัวงานของเรา” 

 ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์


ในมุมนี้ พิชามาศ ชยางาม ผู้ก่อตั้ง Loopers แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้ามือสองออนไลน์ของไทยเอง ก็มองเช่นเดียวกันว่า ความยากของผู้หญิงไม่ได้มาจากตัวเอง แต่มาจากภายนอกที่คาดหวัง “เราถูกคาดหวังว่าต้องดูดี ต้องเก่ง กินดี นอนให้พอ ในขณะที่เพศอื่นไม่ได้ถูกคาดหวังแบบนั้น รวมถึงความมั่นใจ เวลาไปพูด หรือแชร์ ถ้าเรารู้ 90% เราคิดว่าไม่พอ เราไม่มั่นใจกันเอง เป็นกรอบความคิด หรือสังคมที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่า ต้องรู้หมด รู้จริง จึงจะกล้าพูดได้” เธอเล่า

พิชามาศ ชยางาม 

ขณะที่ด้านบริษัท KTC เจนจิต ลัดพลี ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายสื่อสารและ PR ของ KTC ฉายภาพขององค์กรที่ค่อนข้างแตกต่างว่า บริษัทนี้มีสัดส่วนผู้หญิงค่อนข้างเยอะ “บริษัทเรามีผู้หญิง 66% องค์กรของเราจึงตัดสินคนด้วยบทบาทของเขา ไม่ใช่เพศ” ทั้งยังไม่ใช่แค่ชาย และหญิง แต่ใน KTC มีสวัสดิการ และการดูแล LGBTQ+ เช่น มีสวัสดิการให้ทั้งคู่สมรส และคู่ชีวิต มีพื้นที่ให้ทุกคนแสดงออก และไม่ใช่แค่เพศ แต่ยังพยายามทลายกรอบของความอาวุโส ให้พื้นที่กับคนรุ่นใหม่ และรุ่นเด็กๆ ได้แสดงความเห็นก่อนด้วย 

สำหรับนักธุรกิจหญิงรุ่นใหม่ อย่าง ดร. พอลลี่ เฮสสันด์ Founder & CEO, Jiencha (เจี้ยนชา) ชาจีนพรีเมียมสัญชาติไทย แบรนด์น้องใหม่ที่ก่อตั้งไม่ถึง 2 ปีนั้น ก็เล่าในประสบการณ์ของตัวเองว่า ความท้าทายหลักที่เจอคือเรื่องความเชื่อมั่น ที่เธอต้องสร้างให้ทีม คู่ค้า หรือคนที่ดีล เชื่อมั่น ซึ่งมีความสำคัญมาก “ด้วยวัย และความเป็นผู้หญิง เมื่อเขาเจอเราครั้งแรกจึงมีความสำคัญมาก ว่าจะทำอย่างไรให้เขาเชื่อมั่น เพราะเราเป็นแบรนด์น้องใหม่ เราต้องทำให้เชื่อมั่นว่าเราจะพาเขาไปในวิสัยทัศน์ที่วางไว้ได้” ดังนั้นเรื่องของทั้ง ภาพลักษณ์  บุคลิก ความตั้งใจ มุ่งมั่น จึงเป็นสิ่งที่ CEO ท่านนี้ต้องพิสูจน์ 

ดร. พอลลี่ เฮสสันด์


สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Tellscore เอง ซึ่งเป็นผู้หญิง และมีประสบการณ์ในสายเทคโนโลยี ที่มีผู้ชายจำนวนมาก ก็ย้อนอดีตในสมัยที่เธอเป็นผู้หญิงคนเดียยว ท่ามกลางโปรแกรมเมอร์ชายให้ฟังว่า สมัยนั้น เรื่องเพศมีผลจริงๆ ที่ทำให้ต้องพิสูจน์ ต้องเก่งพอ ซึ่งสมัยนี้ ช่องว่างทางเพศนี้อาจจะหายไปแล้ว ซึ่งตอนนี้มี LGBTQ+ ที่สังคมเองก็ต้องทลายกรอบตรงนี้กันต่อไปด้วย 


ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยจุดเด่นของผู้หญิง

ความเป็นผู้หญิง ที่เคยถูกตีตรา มองในแง่ลบ ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนแอ หรือจะอยู่ในวงการได้ไม่นานหากมีลูก แต่ในปัจจุบัน จุดเด่นของความเป็นผู้หญิงก็ถูกนำมาใช้ และขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 

ดร.เกษรา มองว่า ในความเป็นผู้หญิง ซึ่งมีความอ่อนโยนนั้น เป็นจุดแข็งในการสร้างความสัมพันธ์ นอกจากเรื่องธุรกิจ หรือแค่ตัวเลขผลงาน กับพาร์ทเนอร์ได้ดี “เรายังมีความเป็นผู้หญิงอยู่ และมีความอ่อนโยน วิธีการพูดที่สร้างความใกล้ชิด สร้างมิตรภาพ ผู้หญิงมีมากกว่า และเป็นเรื่องที่ดี 

เจนจิต ลัดพลี

การสร้างความสัมพันธ์ที่นอกเหนือจากธุรกิจ ทำให้เราสร้างความน่าเชื่อถือได้ และความน่าเชื่อถือนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของผลงาน หรือกำไรเท่านั้น” ซึ่งเห็นได้ว่า การสร้างความน่าเชื่อถือนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเจนจิตเอง ก็เล่าว่า บริษัท KTC ได้วางเรื่องนี้ ให้เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการเป็นผู้นำ ทำให้คนเชื่อใจ และรู้สึกว่าได้รับความห่วงใย ซึ่งจะนำไปสู่ความปลอดภัย กล้าคิด กล้าแสดงออก และเชื่อถือได้ด้วย  


วิสัยทัศน์ผู้นำหญิงรับมือกับความท้าทายของเศรษฐกิจไทย

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ตกลง ใครๆ ก็บ่นเรื่องของปากท้อง ผู้นำหญิงเหล่านี้รับมือกับความท้าทายนี้อย่างไรก็เป็นคำถามที่เรานำมาพูดคุยกัน

ในมุมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกษรา ชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนไปอย่างมาก จากเดิมที่การกู้ธนาคาร 30 ปีเป็นวิธีหลักในการมีบ้าน แต่ปัจจุบันลูกค้าจำนวนมากไม่อยากเป็นหนี้ ทำให้ธุรกิจถูก Disrupt จนต้องคิดโมเดลใหม่อย่าง “เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ” ที่ช่วยให้ลูกค้าค่อย ๆ สะสมเงินต้น ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการก็ต้องแบกรับภาระการจัดการเบื้องหลังมหาศาล เพื่อแก้ปัญหาที่รายได้ของผู้คนโตไม่ทันราคาบ้าน

ด้านการตลาดและการสื่อสาร สุวิตา จาก Tell score มองว่าการเติบโตของอินฟลูเอนเซอร์เป็นผลจากการขยับจากงานประจำไปสู่ฟรีแลนซ์ ทำให้เกิดความต้องการรายได้เสริมมากขึ้น เธอชี้ว่าการเลือกอินฟลูไม่ใช่แค่ตามจำนวนผู้ติดตาม แต่ต้องมองว่าเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ ผู้ให้ความรู้ หรือผู้มอบความบันเทิง ซึ่งตอบโจทย์บทบาทการสื่อสารมากกว่า

สุวิตา จรัญวงศ์

ขณะเดียวกัน เจนจิต จาก KTC สะท้อนว่าพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เต็มไปด้วยข้อมูลและทางเลือกมากมาย ธุรกิจการเงินจึงต้องช่วยให้ลูกค้าใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล “ที่ KTC เรามีทีมที่เรีกยว่าเข้าถึงระดับต้นน้ำ เราเจาะในความสนใจความลูกค้า เพื่อทำเหมือนตัวเองเป็นลูกค้า ไม่ใช่คนขายของ การสร้างความพยายามเข้าถึง ทั่วถึง” 

ในมิติธุรกิจเกิดใหม่ พิชามาศ จาก Loopers มองว่าความท้าทายคือการสร้างความเชื่อใจก่อน เพราะหากไม่มีความน่าเชื่อถือ ลูกค้าจะไม่เลือกใช้บริการ ในปีนี้ เธอเน้นความคุ้มค่าเป็นหัวใจหลักท่ามกลางเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก มากกว่าเรื่องของความยั่งยืน ด้านพอลลี่ จาก Jiencha ก็สะท้อนภาพการเติบโตสู่สากล โดยเชื่อมั่นว่ารสชาติไทยสามารถไปไกลในตลาดโลกได้ และยังคงรักษาจุดแข็งด้วยคุณภาพและความเข้าใจผู้บริโภคในประเทศเป็นรากฐาน

สุดท้ายแล้ว ผู้นำหญิงทั้ง 5 คน ได้แสดงแรงบันดาลใจ และปลุกพลัง การเป็น ‘ผู้นำหญิงยุคใหม่’ ไม่ว่าจะเป็นการค่อยๆ ทำตามความฝันไปทีละก้าว หรือการมั่นใจในการสื่อสารของตัวเอง โดยสุวิตา ได้แนะนำให้ทุกคนมีความกล้า ออกจาก Comfort zone อย่างเธอเองที่เรียนในสายนึง ทำงานอีกสายนึง ก็ชี้ว่าทุกประสบการณ์ของเธอได้มาส่งเสริมกัน 

ขณะที่เกษรา ชี้ว่า ผลงาน จะแสดง และพูดถึงสิ่งที่เราทำเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องวางแผนว่าเราจะแสดงอย่างไร “ต้องคิดก่อนว่า ผลงานจะทำให้คนรู้ได้อย่างไร ว่าเราสำเร็จ แต่เราไม่ต้องรอให้สำเร็จหมด แต่ในทุกขั้นที่สำเร็จ ก็สร้างคนที่เชื่อเราได้ ยิ่งมีคนเชื่อ เรายิ่งบรรลุวัตถุประสงค์ใหญ่ได้” ทั้งยังย้ำว่า การเป็นผู้นำ เป็นเรื่องปกติที่อาจจะมีความไม่มั่นใจ และแสดงถึงความเสี่ยงบ้าง แต่ต้องชัดเจนว่าแต่ละขั้นตอน จะจัดการอย่างไร 

และสุดท้าย ดร.พอลลี่ จากแบรนด์น้องใหม่ก็สะท้อนถึงการปรับตัวให้ไว และกล้าที่จะลงมือทำ “ไม่มีการลงมือทำแล้วล้มเหลว เพราะเราก็ได้ประสบการณ์ แม้ว่าไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ได้บทเรียนมาว่าต่อไปเราจะทำยังไง ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ไว มี AI มีฐานข้อมูลไวกว่าแต่ก่อน ต้องเข้าใจ และตามโลกให้ทัน ว่าจะเรียนรู้ ศึกษายังไงให้เข้ากับโลกยุคใหม่” ผู้บริหารหญิงสรุป

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง