โปรตุเกสฟื้น 'ภาวะภัยพิบัติ' ยกระดับมาตรการคุมโควิด-19
ลิสบอน, 26 พ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (25 พ.ย.) อันโตนิโอ กอสตา นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส เปิดเผยว่าโปรตุเกสจะกลับสู่ "ภาวะภัยพิบัติ" (state of calamity) อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. พร้อมยกระดับมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
สภาคณะรัฐมนตรีของโปรตุเกสมีมติบังคับใช้ข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ปิดทุกแห่งอีกครั้ง พร้อมกำหนดให้ประชาชนแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบดิจิทัลก่อนเข้าร้านอาหาร โรงแรม บาร์ คลับ กิจกรรมกีฬา และโรงยิมออกกำลังกาย
ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าสู่บ้านพักคนชราและสถานสุขภาพ หรือเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาและกิจกรรมทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่ จะต้องแสดงผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม
"มาตรการแรกคือส่งเสริมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้น รัฐบาลมีวัคซีนเพียงพอจะฉีดให้ประชาชนทุกคน" กอสตากล่าว พร้อมเสริมว่าโปรตุเกสเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนให้เด็กที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ด้วย
ขณะเดียวกันผู้โดยสารเที่ยวบินเข้าโปรตุเกสทุกคนต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ และสายการบินจะถูกปรับเงิน 20,000 ยูโร (ราว 753,300 บาท) ต่อผู้โดยสารหนึ่งคน หากพบผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบควบคุมโรคระบาด
อนึ่ง โปรตุเกสตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 3,150 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 15 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 1,133,241 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตรวม 18,385 ราย