รีเซต

ติดตามไวรัสมาร์บวร์กใกล้ชิด ย้ำคัดกรองผู้เดินทางประเทศที่แพร่ระบาด

ติดตามไวรัสมาร์บวร์กใกล้ชิด ย้ำคัดกรองผู้เดินทางประเทศที่แพร่ระบาด
TNN ช่อง16
21 พฤศจิกายน 2568 ( 15:27 )
17

 วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2568) นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยข้อมูลไวรัสมาร์บวร์กที่มีผู้ป่วยหลายรายในเอธิโอเปียว่า “โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก” (Marburg virus disease; MVD) อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสอีโบลา (Ebola) ซึ่งการติดเชื้อทำให้เกิดอาการไข้และเลือดออก มีค้างคาวผลไม้เป็นสัตว์รังโรค ถูกตั้งชื่อตามเมืองมาร์บวร์กในประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีการรายงานการระบาดครั้งแรก การติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสค้างคาวผลไม้ในเหมืองหรือถ้ำ เมื่อโรคแพร่จากสัตว์สู่คนแล้ว ผู้ติดเชื้อสามารถแพร่โรคต่อไปสู่ผู้อื่นผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งที่ออกมาจากร่างกายของผู้ติดเชื้อได้เหมือนกับโรคอีโบลา

ไวรัสมาร์บวร์ก ถูกพบในปี พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) จากการระบาดในเมืองมาร์บวร์กและแฟรงก์เฟิร์ตในประเทศเยอรมนี และในเมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปนเปื้อนในห้องปฏิบัติการที่ใช้ลิงเขียวแอฟริกานำเข้าจากยูกันดา ต่อมาพบผู้ป่วยประปราย การระบาดส่วนใหญ่เกิดในประเทศแถบทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกากลาง เช่น ยูกันดา เคนยา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แองโกลา กานา กินี และแทนซาเนีย สำหรับนอกทวีปแอฟริกา พบรายงานผู้ป่วยนำเข้า เช่น ผู้เสียชีวิตหนึ่งรายในยุโรปจากการติดเชื้อหลังเดินทางกลับจากถ้ำที่ยูกันดา และอีกหนึ่งรายในสหรัฐอเมริกาที่ป่วยแต่ไม่เสียชีวิตหลังกลับจากถ้ำในยูกันดา

นายแพทย์มณเฑียร กล่าวต่อว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) ได้ส่งทีมงานไปสนับสนุนการควบคุมการระบาดในเอธิโอเปียแล้ว โดยรัฐบาลเอธิโอเปียพบผู้ป่วยสงสัย 17 ราย ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการแล้ว 9 ราย เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยมีอาการไข้ อ่อนเพลีย อาเจียนเป็นเลือด และท้องเสีย การระบาดเกิดขึ้นในพื้นที่ภูมิภาคโอโม (Omo) ทางตอนใต้ของเอธิโอเปีย ซึ่งติดกับชายแดนประเทศซูดานใต้ สำหรับประเทศไทยกำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์กเป็น 1 ใน 13 โรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง แม้ยังไม่เคยมีรายงานผู้ป่วยในประเทศไทยมาก่อน

โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์กมีระยะฟักตัวตั้งแต่ 2-21 วัน หลังจากสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อหรือสัตว์นำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว มีผื่นแต่ไม่คัน ต่อมาจะมีเลือดออกตามผิวหนังและอวัยวะต่าง ๆ เช่น อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระดำหรือเป็นเลือด เลือดออกตามจมูก ปาก และช่องคลอด บางรายมีภาวะตับหรืออวัยวะอื่น ๆ ล้มเหลว หรือเกิดภาวะช็อกได้ ผู้ป่วยหลายรายมีอาการเลือดออกอย่างรุนแรงภายใน 7 วัน ผู้ป่วยมักเสียชีวิตอย่างรวดเร็วในช่วง 8-9 วันหลังจากมีอาการ โดยมีรายงานอัตราป่วยตายสูงถึงร้อยละ 24-88 ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาจำเพาะ

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีการประกาศห้ามการเดินทาง แต่เน้นมาตรการคัดกรองผู้เดินทางทุกคนที่มาจากประเทศเอธิโอเปียที่มีรายงานพบผู้ป่วย พร้อมเพิ่มระดับการเตรียมความพร้อมระบบการเฝ้าระวังและคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทุกแห่ง ตลอดจนแจ้งสถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ หากพบผู้ป่วยสงสัยให้เก็บตัวอย่างส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการและรายงานผู้ป่วยที่สงสัยภายใน 3 ชั่วโมง และหากประชาชนพบผู้ที่สงสัยโรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์กให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมาตรการสาธารณสุขใช้แนวทางปฏิบัติเดียวกันกับโรคอีโบลา

กรมควบคุมโรค แนะนำวิธีป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนี้ 

1. ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกาหรือประเทศที่กำลังมีการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์รังโรค ควรล้างมือด้วยสบู่หลังสัมผัสสัตว์ เนื้อสัตว์ หรือซากสัตว์ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้มีอาการป่วยสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หรือผู้สงสัยติดเชื้อโดยไม่ใส่อุปกรณ์ป้องกัน

 2. สถานพยาบาลควรมีการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์กในผู้ป่วยในผู้มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศที่พบการระบาด และพิจารณาส่งตรวจหาเชื้อเมื่อผู้ป่วยมีประวัติเสี่ยง 

3. หากผู้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรคมีอาการสงสัยให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที และหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ข่าวที่เกี่ยวข้อง