“สนามบินโรม” ติดระบบเก็บไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถมือสอง ตั้งเป้าลดคาร์บอนปี 2030

สนามบินฟิวมิชิโน (Fiumicino Airport) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโรม ประเทศอิตาลี จับมือร่วมกับบริษัทซัพพลายเออร์ด้านพลังงาน พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) ที่ใช้แบตเตอรี่รถยนต์มือสอง มาเก็บพลังงานที่ได้จากฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งเป้าใช้งานเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2030
ระบบที่ว่านี้มีชื่อว่า ไพออเนียร์ (Pioneer) เป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีที่ใช้แบตเตอรี่ไฮบริดแบบใช้ซ้ำ ตัวระบบใช้แบตเตอรี่รถยนต์มือสองที่ได้มาจากหลากหลายบริษัทรถยนต์ เช่น นิสสัน, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และสเตลเลนติส เอามาประกอบกันเป็นหน่วยจัดเก็บพลังงานขนาด 10 เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งสามารถจ่ายพลังงานสะอาดให้กับอาคารผู้โดยสารของสนามบิน
เจ้าหน้าที่ของสนามบินกล่าวว่า ระบบจัดเก็บพลังงานปัจจุบันนี้ มีการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ทั้งสิ้น 762 ชุดด้วยกัน โดยทำงานร่วมกับฟาร์มโซลาร์เซลล์ ที่มีแผงโซลาร์เซลล์ 55,000 แผง ผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนได้ 31 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และคาดว่าทั้งระบบช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 16,000 ตันใน 10 ปี
มีข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ที่ระบุว่าในปี 2023 อุตสาหกรรมการบินปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์คิดเป็นร้อยละ 2.5 เมื่อนับจากการปล่อยพลังงานทั่วโลก
ดังนั้นการนำแบตเตอรี่เหล่านี้ กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยผสมผสานเข้ากับแหล่งพลังงานหมุนเวียน นอกจากจะเป็นการช่วยอุตสาหกรรมการบินลดปล่อยคาร์บอน ยังช่วยให้สามารถบูรณาการการผลิตไฟฟ้าที่ผันผวน จากการใช้แค่แหล่งพลังงานสะอาดอย่างเดียว เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ให้เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าได้มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน ผ่านช่วงการใช้งานที่ขยายออกไป
ทั้งนี้ทางทีมพัฒนาได้มีการตรวจสอบการบูรณาการทางเทคนิค การจำลองอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และการรับประกันประสิทธิภาพสำหรับระบบจัดเก็บ โดยคาดว่าแบตเตอรี่มือสองเหล่านี้จะยังใช้งานต่อไปได้นาน 6 ถึง 7 ปี แม้จะใช้ที่สนามบินทุกวันก็ตาม
และเมื่อหมดอายุการใช้งานโดยสมบูรณ์แล้ว จะมีการส่งไปให้บริษัทผู้ผลิตยานยนต์รับผิดชอบในการจัดการขยะ หรือรีไซเคิลแบตเตอรี่เหล่านี้ต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
