NASA ชี้ “ความขัดแย้งบนโลกจะไม่ผลกระทบต่อความร่วมมือนอกโลก”
ภายหลังจากการบุกเข้ายูเครนของรัสเซีย เวลา 19.43 ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หรือ 01.43 ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ตามเวลาประเทศไทย ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้แถลงเกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยระบุว่าจะมี "ข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับสิ่งที่สามารถส่งออกไปยังรัสเซียได้" และกล่าวเสริมว่า
“เราประมาณการว่าเราจะตัดการนำเข้าสินค้าไฮเทคของรัสเซียมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถของพวกเขาในการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยต่อไป มันจะลดทอนอุตสาหกรรมการบินและอวกาศรวมถึงโครงการอวกาศของพวกเขาด้วย”
เป็นเหตุให้ Dmitry Rogozin ผู้อำนวยการองค์การอวกาศรอสคอสมอสของรัสเซีย ออกมาทวีตโดยมีใจความคร่าว ๆ ว่า
“คุณต้องการทำลายความร่วมมือของเราบนสถานีอวกาศนานาชาติหรือ หากคุณปิดกั้นความร่วมมือกับเรา ใครจะช่วยสถานีอวกาศนานาชาติจากการโคจรที่ควบคุมไม่ได้และตกไปในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป? นอกจากนี้ยังมีโอกาสตกไปยังอินเดียและจีน คุณต้องการข่มขู่พวกเขาด้วยสิ่งนี้หรือไม่ สถานีอวกาศนานาชาติไม่ได้บินผ่านรัสเซียอยู่แล้ว ฉะนั้นความเสี่ยงทั้งหมดนี้เป็นของพวกคุณ คุณพร้อมสำหรับสิ่งนี้หรือไม่”
กลายเป็นประเด็นให้กังวลว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบนโลกในตอนนี้จะส่งผลอย่างไรต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และนักบินอวกาศสัญชาติรัสเซียทั้ง 2 คนที่กำลังทำงานอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติจะถูกส่งกลับบ้านทันทีเลยหรือไม่
ต่อมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ (วันนี้) Joshua Finch หัวหน้าสำนักงานสื่อสารมวลชน สำนักงานใหญ่ของ NASA จึงได้ส่งอีเมลชี้แจงให้กับ Space.com โดยมีใจความว่า
“นาซายังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศทั้งหมด ซึ่งรวมถึง State Space Corporation Roscosmos เพื่อปฏิบัติการที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) มาตรการควบคุมการส่งออกใหม่จะดำเนินต่อไปเพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านอวกาศของพลเรือนระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ สำหรับการสนับสนุนของหน่วยงานการดำเนินงานในวงโคจรและสถานีภาคพื้นดิน”
ภาพจาก whitehouse.gov
ภาพจาก space.com