SpaceX เสนอแผน Starship แบบเรียบง่ายสำหรับภารกิจ Artemis 3 หลังพบแรงกดดันจาก NASA และการแข่งขันกับจีน

30 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท SpaceX กำลังประเมินรูปแบบภารกิจที่เรียบง่าย และแนวคิดการปฏิบัติการใหม่สำหรับภารกิจ Artemis 3 โดยเชื่อว่าแนวคิดนี้จะส่งผลให้สามารถนำนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ได้เร็วขึ้น และในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงความปลอดภัยของลูกเรือ

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในวันพฤหัสบดี 30 ตุลาคม 2025 ในเอกสารอัปเดตของบริษัทที่ชื่อว่า "To the Moon and Beyond" ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ ฌอน ดัฟฟี่ (Sean Duffy) รักษาการผู้ดูแลระบบ NASA ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเร็วในการพัฒนาจรวด Starship ของ SpaceX

ความกังวลของ NASA และการแข่งขันกับจีน

ปัจจุบันบริษัท SpaceX ถือสัญญาในการนำนักบินอวกาศของ NASA ลงจอดใกล้กับขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์ในภารกิจ Artemis 3 ซึ่งเดิมคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2028 อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฌอน ดัฟฟี่ (Sean Duffy) ได้กล่าวว่า NASA จะเปิดการแข่งขันสำหรับสัญญาลงจอด Artemis 3 อีกครั้ง โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับจังหวะการพัฒนาของ Starship

ฌอน ดัฟฟี่ (Sean Duffy) กล่าวเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ในรายการ "Squawk Box" ของ CNBC ว่า "ผมรัก SpaceX พวกเขาเป็นบริษัทที่น่าทึ่ง ปัญหาคือ พวกเขาทำงานล่าช้า พวกเขาเลื่อนไทม์ไลน์ออกไป และเรากำลังแข่งกับจีน" จีนวางแผนที่จะส่งนักบินอวกาศลงจอดบนดวงจันทร์ภายในปี 2030 และกำลังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

ปฏิกิริยาของฌอน ดัฟฟี่ (Sean Duffy) ส่งผลให้อีลอน มัสก์ CEO และผู้ก่อตั้ง SpaceX ไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้กล่าวโจมตีฌอน ดัฟฟี่ (Sean Duffy) ผ่านโซเชียลมีเดียซ้ำแล้วซ้ำอีกในช่วงไม่กี่วันต่อมา

แผนลดความซับซ้อนของภารกิจ

แม้ว่าอีลอน มัสก์ ตอบโต้อย่างรุนแรง แต่บริษัท SpaceX ไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการตอบสนองที่ชัดเจนมากขึ้นต่อความกังวลของ NASA โดยบริษัท SpaceX ระบุในเอกสารอัปเดตว่า บริษัทได้แบ่งปันและกำลังประเมินอย่างเป็นทางการถึงสถาปัตยกรรมภารกิจที่เรียบง่ายและแนวคิดการปฏิบัติการ

บริษัท SpaceX เน้นย้ำว่า บริษัทพร้อมที่จะมีความยืดหยุ่นเพื่อช่วยให้ภารกิจทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ โดยกล่าวว่า 

"เราได้ตอบสนองต่อ NASA อย่างสม่ำเสมอในขณะที่ข้อกำหนดสำหรับ Artemis 3 ได้เปลี่ยนไป และได้แบ่งปันความคิดเกี่ยวกับวิธีการ ลดความซับซ้อนของภารกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของชาติ" 

อย่างไรก็ตาม โพสต์บล็อกใหม่ของ SpaceX ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับโครงสร้างภารกิจ Artemis 3 ที่เป็นไปได้ในรูปแบบเรียบง่าย ว่ามีลักษณะอย่างไร ?

โดยตามแผนการเดิมของภารกิจ Artemis 3 ในปัจจุบัน นักบินอวกาศ 4 คนจะขึ้นบินด้วยจรวด Space Launch System (SLS) ของ NASA จากนั้นโดยสารแคปซูลยาน Orion ไปยังวงโคจรดวงจันทร์ ซึ่งพวกเขาจะไปเชื่อมต่อกับยาน Starship ของบริษัท SpaceX นักบินอวกาศจะย้ายเข้าสู่ Starship ซึ่งจะนำพวกเขาไปยังและกลับจากพื้นผิวดวงจันทร์

อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ อาจเคยให้เบาะแสเกี่ยวกับแผนการที่ใหญ่กว่านี้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม โดยระบุสั้น ๆ ว่า "Starship อาจจะลงเอยด้วยการทำภารกิจดวงจันทร์เองทั้งหมด"

ความคืบหน้าและศักยภาพของ Starship

บริษัท SpaceX ยืนยันว่า บริษัทกำลังทำงานควบคู่กันไปใน 2 เส้นทาง สำหรับ Starship คือ การพัฒนาจรวดขนาดใหญ่เป็นจรวดแกนหลัก ซึ่งจะช่วยให้มนุษยชาติสามารถตั้งอาณานิคมบนดาวอังคารได้ และส่วนบนของยานลงจอดดวงจันทร์สำหรับโครงการ Artemis โดยเฉพาะ SpaceX เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนเองสำหรับเส้นทางแกนหลัก

บริษัทยังเน้นย้ำถึงความสามารถที่ Starship มีเหนือกว่าในการสำรวจดวงจันทร์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และความสามารถในการเติมเชื้อเพลิงในอวกาศ โดยยาน Starship หนึ่งลำมีปริมาตรที่อยู่อาศัยได้มากกว่า 600 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณสองในสามของปริมาตรทั้งหมดที่มีแรงดันของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)

บริษัท SpaceX ระบุว่าได้เสร็จสิ้นเป้าหมายสำคัญ 49 รายการ สำหรับยานลงจอด Artemis แล้ว ซึ่งรวมถึงการทดสอบการป้องกันสะเก็ดดาวในอวกาศและการสาธิตระบบการควบคุมสิ่งแวดล้อมและการยังชีพของดวงจันทร์และการควบคุมความร้อน 

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน บริษัทยังวางแผนที่จะส่งส่วนบนของ Starship ไปยังวงโคจรโลกและทำการทดสอบการเติมเชื้อเพลิงในอวกาศในปี 2026 

บริษัท SpaceX ยืนยันในโพสต์ว่า "บริษัทยังคงมีเป้าหมายร่วมกับ NASA ในการนำนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ "อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" และต้องการเป็นบริษัทแกนหลักของเป้าหมายโครงการ Artemis ในการจัดตั้งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ที่ถาวรและยั่งยืนบนดวงจันทร์