เพนตากอน ส่ง "ไฟเขียว" ถึงทำเนียบขาวส่งโทมาฮอว์คให้ยูเครน รอคำสั่งสุดท้ายจากทรัมป์คนเดียว

สำนักข่าว CNN รายงานว่า เพนตากอน หรือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณ “ไฟเขียว” ไปยังทำเนียบขาวเกี่ยวกับการจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกล “โทมาฮอว์ค” ให้ยูเครน หลังจากเพนตากอนได้ประเมินแล้วว่าการจัดหาโฮมาฮอว์คให้ยูเครนนั้นไม่ส่งผลเสียต่อคลังแสงของสหรัฐฯ ดังนั้นกระบวนการขั้นสุดท้ายจากนี้จึงอยู่ในมือของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเป็นคนตัดสินใจสุดท้ายเพียงผู้เดียวแล้ว

รายงานของ CNN ยังเผยด้วยว่า เสนาธิการร่วมของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินเพื่อจัดหาขีปนาวุธโทมาฮอว์คไปถึงทำเนียบขาวตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ทรัมป์จะหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งผลการประเมินดังกล่าวจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้สร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตรยุโรป ที่เชื่อว่าสหรัฐฯ เหลือข้ออ้างน้อยลงในการไม่ส่งมอบขีปนาวุธโทมาฮอว์คให้กับยูเครน

ขณะที่แหล่งข่าวสหรัฐฯ ระบุกับ CNN ว่าแม้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะไม่มีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณคลังแสงของตนแต่ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขเกี่ยวกับการหาวิธีให้ยูเครนสามารถฝึกใช้งานและนำขีปนาวุธไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคำถามสำคัญที่จะตามมาคือ หากสหรัฐฯ ตัดสินใจมอบโทมาฮอว์คให้ยูเครน พวกเขาจะยิงขีปนาวุธนี้ได้อย่างไร เพราะโดยทั่วไปแล้วขีปนาวุธโทมาฮอว์คจะถูกยิงจากเรือรบผิวน้ำหรือเรือดำน้ำ แต่กองทัพเรือของยูเครนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสู้รบที่ผ่านมา จึงมีแนวโน้มว่าขีปนาวุธนี้อาจต้องถูกเปลี่ยนมายิงจากบนบก ทำให้นาวิกโยธินและกองทัพบกสหรัฐฯ ต้องร่วมกันพัฒนาระบบยิงจากพื้นดินที่สามารถส่งมอบให้ยูเครนก่อนนำไปใช้งานได้

CNN ยังรายงานโดยอ่างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่จากยุโรปด้วยว่า ถึงแม้ในกรณีที่ทรัมป์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายไม่มอบโทมาฮอว์คให้ยูเครน แต่ฝั่งยุโรปเชื่อว่ายูเครนอาจหาทางออกได้ หลังจากมีรายงานว่าวิศวกรชาวยูเครนเคยดัดแปลงระบบขีปนาวุธ “สตอร์ม แชโดว์” (Storm Shadow) ที่สหราชอาณาจักรมอบให้ ก่อนนำไปใช้งานได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เคยกล่าวระหว่างร่วมประชุมกับเซเลนสกีว่า เขาไม่อยากส่งมอบขีปนาวุธโทมาฮอว์คให้ยูเครนเนื่องจากไม่ต้องการมอบสิ่งที่ต้องใช้เพื่อป้องกันประเทศของไปให้กับผู้อื่น แม้ว่าก่อนหน้าที่เขาจะพบกับเซเลนสกีทรัมป์จะกล่าวว่า สหรัฐฯ มีขีปนาวุธโทมาฮอว์คจำนวนมากพอที่อาจส่งมอบให้ยูเครนได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน CNN เผยว่า ทรัมป์ยังเคยหารือเกี่ยวกับขีปนาวุธโทมาฮอว์คทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แต่ปูตินได้แสดงความกังวลว่าโทมาฮอว์คอาจทำลายเมืองสำคัญของรัสเซีย อาทิ กรุงมอสโก รวมถึงนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสนามรบในแนวหน้าอีกทั้งยังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียด้วย

ทั้งนี้ แหล่งข่าวสหรัฐฯ เปิดเผยด้วยว่าทรัมป์ยังไม่ตัดความเป็นไปได้เรื่องการส่งขีปนาวุธโทมาฮอว์คให้ยูเครนออกจากโต๊ะเจรจา รวมถึงฝ่ายบริหารของเขาได้จัดทำแผนไว้พร้อมแล้วเพื่อส่งมอบขีปนาวุธให้ยูเครนได้อย่างรวดเร็วทันทีที่ทรัมป์สั่งการ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์เริ่มรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นกับท่าทีของปูตินที่ไม่ยอมพิจารณาเจรจาสันติภาพอย่างจริงจัง จนทำให้การเจรจาที่กรุงบูดาเปสต์ของฮังการีมีอันต้องยกเลิกไปแบบไม่มีกำหนด