"อนุทิน" เผยเหตุปิด "บิ๊กเมาน์เท่น" ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด

วันนี้ (14 ธ.ค.63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีอละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ระบุว่า ถึงคำสั่งระงับการจัดงาน "บิ๊กเมาน์เท่น" เมื่อคืนวันที่ 13-14 ธันวาคม ว่า ไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้จักใครเป็นพิเศษ เรื่องนี้เป็นเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน ความปลอดภัยของประเทศไทย เรื่องโควิด-19 ใหญ่กว่าการเมืองเยอะ ถ้าประชาชนติดโควิด-19 การเมืองก็เอาไม่อยู่ นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เราต้องเข้มในการใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด เพราะไม่สามารถให้ประชาชน เสี่ยงต่อการรับเชื้อ ของคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ 

ยืนยัน ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 หากพบว่ามีการไม่ทำตามกฎระเบียบ มาตรการสาธารณสุข ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย 

ทั้งนี้ คำสั่งของราชการ ถือว่ามี ผลทันที จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้มีอำนาจสูงสุดในพื้นที่ออกคำสั่ง ถึงแม้มีการอุทธรณ์ แต่ก็ได้ยืนยันตามมติเดิมแล้ว  อีกทั้งอยู่ในช่วงของการบังคับใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉิน ด้วย ยังมีการฝ่าฝืนจัด ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีความจำเป็นที่จะต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางผู้จัดงาน   

นายอนุทิน ระบุว่า สิ่งสำคัญคือประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ให้ความร่วมมือ ข้อแนะนำ เช่น ในช่วง covid 19 ที่ประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับกระกระทรวงสาธารณสุข เช่น เดียวกับกรณีท่าขี้เหล็กที่มีการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมายโดยไม่มีการกักตัว แต่หากเข้ามาตามช่องทางปกติยอมทุกประการโรค 14 วันก็จะมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น 

เบื้องต้น กลุ่มผู้ป่วยและผู้สัมผัสจากงานบิ๊กเมาน์เท่น ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด ถือว่ายังไม่มีการแพร่เชื้อ โดยมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อที่ต่ำ ยังไม่ถึงขั้นต้องให้ผู้ที่เดินทางเข้าร่วมงานบิ๊กเมาน์เท่น กลับมากักตัว 14 วัน แต่ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และให้เฝ้าสังเกตอาการว่าตนเองมีอาการป่วยหรือไม่ เช่น คัดจมูก ไอ จาม จมูกไม่กลิ่น ลิ้นไม่รับรส แล้วถ้าหากไป 7-10 วันแล้วยังไม่มีอาการก็ถือว่าไม่มีเชื้อ 

"การขอจัดงาน ต้องมีการขออนุญาตรวมถึง เสนอรูปแบบการจัดงาน จำนวนคน พิจารณา ก่อนการอนุมัติ หากเข้าเกณฑ์ก็อนุมัติให้ทุกราย แต่พอได้รับการอนุมัติไปแล้วไม่ทำตามที่เสนอเอาไว้ ก็ทำให้เป็นปัญหา จะมาบอกว่าคนมามากเกินไปควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่ ในเมื่อจัดงานแล้วต้องควบคุมได้ เช่น การเข้าออกต้องให้มีทางเดียวเนื่องจากอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค จะมีหลายทาง ให้คนเข้าทุกสาทิศไม่ได้  เนื่องจากเราไม่ต้องการให้มีการแพร่เชื้อ การจัดงานต้องการจำกัดจำนวนคน ใส่หน้ากากอนามัยฯ เป็นต้น" นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ นายอนุทิน พูดถึงการจัดคอนเสิร์ตหากเป็นในรูปแบบของ hard rock ตะโกนเต้นร้อง คนหมู่มาก แบบใกล้ชิดมาก อาจจะต้องเว้นไปก่อน แต่หากจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบของนั่งชิล อาจทำได้ ถึงอย่างไรคนจัดงานหรือหน่วยงานในพื้นที่ คงมีรูปแบบมาตรการในการควบคุมดูแลเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ที่เข้ามาร่วมงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 

ส่วนเรื่องการจัดงานปีใหม่ เคาท์ดาวน์ตามสถานที่ต่างๆ สามารถทำได้ แต่ต้องมีการขออนุญาตการจัดงาน และปฏิบัติตามมาตราการสาธารณสุข ให้คำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยของตนเองในการไม่ให้ติดเชื้อ  เพราะทุกคนก็อยากให้มีการจัดงานหมุนเวียนของเม็ดเงินทางด้านเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีที่บางส่วนมองว่า ประชาชนไม่ได้มีความตระหนักถึงการป้องกันตัวเองในช่วงโควิด 19 นายอนุทิน ให้ความเห็นว่า ส่วนหนึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ด้วย คนที่จัดงานก็ต้องทำให้ประชาชนรับทราบว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยจากการติดเชื้อให้กับประชาชนอย่างไร หากประชาชนที่ไปร่วมงานแล้วมีการใส่หน้ากากอนามัยฯ เว้นระยะห่าง ก็ไปได้ แต่หากทำไม่ได้ และเห็นว่ามีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อง่ายๆ คือไม่ต้องไป ที่สำคัญต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเองด้วย