ปทุมธานี ปิดสถานที่เสี่ยง งดออกจากบ้าน 3 ทุ่มถึงตี 4 บังคับใส่แมสก์
วันนี้ (26 เม.ย.64) นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จังหวัดปทุมธานี ออกคำสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวและกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม ป้องกันการเเพร่ระบาดโควิด- 19 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ข้อ 1 การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคดังต่อไปนี้ เป็นการชั่วคราว
(1) สนามชนโค สนามชนไก่ สถานที่ซ้อมประลองไก่ สนามกัดปลา รวมทั้งสนามซ้อมหรือสนามประกวด แข่งขัน ฝึกซ้อมสัตว์ หรือกิจกรรมอื่นในทำนองเดียวกัน
(2) สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
(3) สถานที่เล่นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนน้ำและสวนสนุก ทั้งในและนอก
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
(4) ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา
(5) สระว่ายน้ำสาธารณะ รวมถึงสระว่ายน้ำของหมู่บ้านหรืออาคารชุดพักอาศัย
ข้อ 2 การห้ามการดำเนินการหรือจัดกิจกรรมหรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
(1) ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภทเพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่โรค เว้นแต่การใช้เป็นที่เอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือการใช้เป็นสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออุปการะ หรือการใช้สถานที่ตามข้อยกเว้นที่กำหนดไว้ในข้อ 1 ของข้อกำหนด (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564 ดังนี้
ก. เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ข. เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะแก่บุคคล
ค. เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการหรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด
(2) ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 10 คน เว้นแต่ ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือจัดกิจกรรมในพื้นที่ ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
ข้อ3 มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กำหนดมาตรการควบคุม ที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน สำหรับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรม เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราซการกำหนด ดังนี้
(1) การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้จนถึงเวลา 23.00 น. ในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่น
(2) ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารหรือสถานที่จำหน่ายสุราตลอดเวลา
(3) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00น. โดยให้จำกัดจำนวน
ผู้ใช้บริการ และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
(4) ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆแต่ไม่เกินเวลา 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งตามปกติเปิดให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น.
(5.) ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่ นั้น ๆ แต่ไม่เกินเวลา 21.00 น.
(6.) สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น.และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม ทั้งนี้ สถานประกอบกิจการ ดังกล่าว ให้เปิดดำเนินการได้โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ และงดการเล่นแบบรวมกลุ่ม การอบตัวหรืออบไอน้ำแบบรวม
ข้อ 4 กำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติม
(1) ให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถานหรือสถานที่ทำงาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ หรือสถานที่ใด ๆ สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ใด ๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น หรืออยู่รวมกันของคนหมู่มาก ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้ง ตลอดเวลาผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
(2) ให้ประชาชนงดการรวมกลุ่มดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกสถานที่ เว้นแต่การดื่มของสมาชิกภายในครอบครัวภายในที่พักอาศัยเท่านั้น
ข้อ 5 การขอความร่วมมือประชาชน ภาครัฐและภาคเอกชน ดังนี้
(1) งดออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักภายหลังเวลา 21.00-04.00 น.ของวันถัดไป เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้
(2) จัดให้มีการดำเนินการรูปแบบปฏิบัติงานของบุคลากรในความรับผิดชอบโดยอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) การสลับวันทำงาน หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ หรืองดการรับประทานร่วมกันเป็นหมู่คณะ
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในบรรดาประกาศและคำสั่งที่ได้ออกไว้ก่อนหน้านี้ให้มีผลบังคับใช้ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งฉบับนี้
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป