โตชิบา รุกหนักครองผู้นำแบรนด์ญี่ปุ่น เร่งอัพสินค้าใหม่50รุ่น ชิงตลาด8หมื่นล้าน
ข่าววันนี้ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโอไมครอนยังไม่แน่นอน แต่มั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะดีขึ้น ทำให้บริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ และจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อต่อเนื่อง โดยสินค้าใหม่ของบริษัท มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งในเรื่องคุณภาพ ความสะดวกสบาย ดีไซน์ ไปจนถึงการประหยัดพลังงานและรักสุขภาพ โดยตั้งเป้าเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์โตชิบาก้าวขึ้นสู่ Top 3 ในตลาด
นายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเทศไทยปี 2564 มีมูลค่าการตลาด 80,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตคงที่ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดต่อเนื่องยาวนาน ที่ส่งผลให้การบริโภคไม่ดีเท่าที่ควร บวกกับปัจจัยเสริม อาทิ ภูมิอากาศไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ สภาพเศรษฐกิจที่ไม่เติบโต รวมไปถึงค่าครองชีพที่แพงขึ้น หากแบ่งเป็นสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เป็นต้น ขยายตัวบวก 1% แต่สินค้าขนาดเล็ก ลบ 4% ในส่วนของ โตชิบา ปี 2564 เติบโตภาพ 17% แยกดูแต่ละหมวดพบว่าสินค้ากลุ่ม Major Appliance โต18% และกลุ่ม Small Appliance โต 15% หากมองในแง่ Online กับ Offline เติบโตทั้งคู่
“ทิศทางของบริษัทเป้าหมายระยะยาว คือ ต้องการเป็น Top 3 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มียอดขายสูงสุดในประเทศ และเป็น No.1 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น สำหรับเป้าหมายระยะสั้น ปีนี้ต้องการยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 2 ดิจิต และต้องการเป็น No.1 ในหมวดตู้เย็น และท้ายที่สุด คือการสร้างแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ให้ตอบรับกับผู้บริโภคกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ Young Generation ”
นายฮิโรยูกิ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การตลาดปีนี้ บริษัทเน้น 1. เพิ่มจำนวนไลน์อัพสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลาย 2.เน้นการทำตลาดแบบดิจิทัล หรือ Digital Marketing มากขึ้นตอบรับกับเทรนด์ดิจิทัลเติบโตต่อเนื่อง และ 3.บริหารคลังสินค้า พร้อมกับเตรียมออกสินค้าใหม่ 50 รุ่น แบ่งเป็นตู้เย็น 13 รุ่น เครื่องซักผ้า 11 รุ่น และสินค้ากลุ่ม Small Appliance อาทิ ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ตู้กดน้ำ รวม 26 รุ่น เน้นสินค้ากลุ่ม Middle to High และ IoT มากขึ้น
ส่วนการทำตลาดแบบ Digital Marketing เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกและประเทศไทยมีการเติบโตที่สูงขึ้นมากช่วง 2 ปีที่ผ่านมากับสถานการณ์โควิดที่เร่งให้มีการรับรู้ เข้าถึงสินค้า รวมถึงการสั่งซื้อผ่านช่องทางดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซที่มากขึ้น ทำให้ปีนี้ โตชิบาทุ่มงบการทำตลาดดิจิทัลมากขึ้นจาก 16% เป็น 22% รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งบนเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ไลน์ ยูทูป และติ๊กต็อกของโตชิบา และได้ย้ายคลังสินค้าไปที่แห่งใหม่ พื้นที่ 24 ไร่ เพื่อเพิ่มจัดเก็บสต็อกถึง 75%
นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า โตชิบา เน้นทำการทำตลาดสินค้าในกลุ่มระดับ Mid to High มากขึ้น อาทิ ตู้เย็น 2 ประตูขนาดเล็ก และเครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัดที่มีระบบฟอกอากาศ และดักจับฝุ่นและเชื้อโรคได้ถึงขนาด 0.3 ไมครอน เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เครื่องกดน้ำร้อนน้ำเย็น เครื่องฟอกอากาศ ระบบฟอกอากาศแบบทอร์นาโด เครื่องซักผ้าฝาหน้า DUAL DRUMS ดีไซน์สวยหรู เป็นต้น