ยังมีหวัง! รัสเซียส่งสัญญาน พร้อมแก้วิกฤตยูเครนผ่านการทูต

รัสเซียส่งสัญญานเมื่อวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ว่า พร้อมที่จะหารือกับตะวันตกต่อไปเกี่ยวกับข้อวิตกกังวลด้านความมั่นคงของรัสเซีย ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ทำให้เกิดความหวังว่ารัสเซียจะไม่รุกรานประเทศเพื่อนบ้านในไม่กี่วันข้างหน้า ตามที่สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรหวั่นวิตก

ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยังคงมีคำถามเกี่ยวกับความตั้งใจของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ขณะที่ประเทศต่างๆ รวมถึงองค์การระหว่างประเทศพากันอพยพนักการทูตและบุคลากรของตนออกจากกรุงเคียฟ หรือโยกย้ายไปยังเมืองอื่นด้วยความกังวลถึงสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น

นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเดินทางเยือนกรุงเคียฟ ภายใต้ความพยายามที่จะหาทางออกด้วยวิถีทางทางการทูต โชลซ์ย้ำว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรใดๆ ที่รัสเซียจะระดมกำลังทหารมากกว่า 130,000 นายประชิดชายแดนยูเครนทั้งทางเหนือ ใต้ และตะวันออก พร้อมกับเรียกร้องให้มีการเจรจากันต่อไป

ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ยุโรปกำลังอยู่บนขอบหน้าผา และยังมีเวลาสำหรับผู้นำรัสเซียที่จะถอยกลับ ด้านนายฌอง อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า แม้จะมีองค์ประกอบทุกประการสำหรับการบุกโจมตีอย่างรุนแรงของรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีปูตินได้ตัดสินใจที่จะทำเช่นนั้น

สื่อตะวันตกหลายสำนักรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษว่า กองทัพรัสเซียสามารถบุกเข้าไปยังยูเครนได้ทุกเมื่อ และการรุกรานดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์นี้

อย่างไรก็ดีปูตินได้หารือกับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แต่สัญญานที่ส่งออกมากลับเป็นไปในทิศทางอื่น โดยลาฟรอฟย้ำว่า รัสเซียควรหารือกับสหรัฐและชาติพันธมิตรให้มากขึ้น แม้ว่าพวกเขาปฏิเสธที่จะพิจารณาข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงหลักของรัสเซียก็ตาม

กระนั้นก็ดีลาฟรอฟรับว่า การเจรจาไม่สามารถที่จะดำเนินต่อไปโดยไม่มีกำหนด แต่เขาก็ยังอยากจะแนะให้มีการหารือกันต่อไปในขณะนี้ พร้อมระบุว่าสหรัฐได้เสนอให้มีการเจรจาเกี่ยวกับการจำกัดการติดตั้งขีปนาวุธในยุโรป รวมถึงข้อจำกัดในการซ้อมรบ รวมถึงมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นอื่นๆ

ขณะที่ปูตินกล่าวว่า ตะวันตกอาจพยายามดึงรัสเซียเข้าสู่การเจรจาที่ไม่มีวันจบ และตั้งคำถามว่ายังมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งลาฟรอฟกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียจะไม่ยอมให้สหรัฐและพันธมิตรสกัดขัดขวางคำขอหลักของรัสเซียอย่างแน่นอน