รีเซต

PHGครึ่งหลังเข้าไฮซีซัน เจรจาดีลใหม่เติมพอร์ต

PHGครึ่งหลังเข้าไฮซีซัน เจรจาดีลใหม่เติมพอร์ต
ทันหุ้น
26 กรกฎาคม 2566 ( 16:50 )
40

PHG มองครึ่งหลังปี 2566 เข้าไฮซีซันธุรกิจ Health Care ตามปัจจัยฤดูกาล จับตาผลงานพีคสุดในไตรมาส 3/2566 แย้มอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจาดีลใหม่ เบื้องต้นคาดว่าปลายไตรมาส 3/2566 ได้ข้อสรุป และสามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป คงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปี 2566 ไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 10-15% ตามแผน

 

นายรณชิต  แย้มสอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PHG เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วง 6 เดือนหลังปี 2566 มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และดีกว่าเมื่อเทียบกัลช่วงครึ่งแรกปี 2566 นี้ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ Health Care ด้วยปัจจัยของฤดูฝนและสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีโรคระบาดต่างๆ แพร่ระบาดมากกว่าช่วงปกติ

 

รายได้โต10-15%

 

อีกทั้ง จากการเข้าสู่การเปิดภาคเรียนใหม่ ทำให้อัตราการเข้ารับรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น อาทิ โรคมือเท้าปาก ไข้หวัดใหญ่ และโรคตาแดง เป็นต้น ปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์รังสิต มีโรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต, โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 และโรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต โดยมีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง ซึ่งเพียงพอรองรับความต้องการรักษาและดูแลสุขภาพในช่วงไฮซีซัน

 

ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/2566 จะมีการขยายตัวที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เพราะตามปกติแล้วในช่วงไตรมาส 2/2566 จะเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ Healthcare  อย่างไรก็ดีจากการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกยังคงทำได้ดีตามแผนที่วางไว้ ทำให้ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปี 2566 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 10-15% จากปีก่อน และจะรักษากำไรให้เติบโตแบบตัวเลขสองหลักตามแผน

 

*ลุ้นจบดีลใหม่

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสนใจในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเริ่มต้นศึกษาและเจรจาร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Health Care โดยเฉพาะในส่วนของ Women Health และ Wellness เบื้องต้นคาดว่าจะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 3/2566 หรือไม่เกินต้นไตรมาส 4/2566 และเริ่มต้นการให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงหัตถการในช่วงไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป

 

"เราเองก็ยังคงมองหาโอกาสในการขยายการให้บริการทางการแพทย์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ก็มีการร่วมศึกษาและเจรจากับทางพาร์ตเนอร์ไปบ้างแล้ว ซึ่งเราให้ความสนใจใน Health โดยเฉพาะในส่วนของ Women Health และ Wellness ที่จะเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจและการให้บริการ รวมถึงสามารถขยายฐานผู้ใช้บริการทางการแพทย์ได้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนรองรับความต้องการดูแลสุขภาพของชาวต่างชาติได้ในอนาคต ซึ่งก็มองว่าภายในไตรมาส 4/2566 จะเริ่มเปิดให้บริการได้"นายรณชิต กล่าว

 

*เดินหน้าลงทุน

 

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนการใช้เงินภายหลังระดมทุน ได้แก่โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ 1 และอาคารจอดรถภายในปี 2567 โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 2 ภายในปี 2569, เพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในปี 2567, เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินบางส่วนภายในปี 2566 และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2566

 

ซึ่งการเดินหน้าขยายธุรกิจดังกล่าว ถือว่าเป็นการต่อยอดพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ รองรับการให้บริการผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่และบริการทางการแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่องและยั่งยืน และที่สำคัญคือการตอกย้ำการเป็นสถานพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ให้บริการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง