สธ.เล็งหาโควิด-19 ในน้ำลายแรงงานต่างด้าว จ่อถกเก็บค่ารักษากลุ่มทำผิด กม.
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยภายหลังร่วมการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่า จากการประชุมได้หารือเรื่องการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ให้กับคนไทย โดยตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้มีการตรวจหาเชื้อด้วยน้ำลาย และการตรวจแบบ กลุ่ม (Pool simple test) โดยเฉพาะในกลุ่มโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ซึ่งจากนี้จะส่งมติดังกล่าวไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อดำเนินการ
“โดยให้แต่ละจังหวัดปรับให้เข้ากับบริบทของพื้นที่ตัวเอง สิ่งที่ตามมาคือ สามารถเบิกจ่ายงบประมาณและประหยัดงบประมาณจะทำให้การควบคุมโรคทำได้อย่างรวดเร็ว หลักการตรวจเชื้อยังคงเป็นการสว็อบ (Swab) และตรวจด้วยวิธีการ RT-PCR แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดในไทยมีการเปลี่ยนแปลง ต้องการการตรวจหาเชื้อที่รวดเร็ว ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ใช้น้ำลาย และตรวจ RT-PCR ด้วยเพราะทำได้เร็ว ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยหลายแห่งรับรองว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการสว็อบเชื้อในระดับร้อยละ 90 ขึ้นไป บางอย่างดีกว่าด้วยซ้ำ” นพ.โอภาส กล่าว
ส่วนข้อเสนอของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการ สธ.ที่ได้เสนอให้คนที่ทำผิดกฎหมายแล้วเกิดการติดเชื้อโควิด-19 รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า ที่ประชุมมอบให้คณะกรรมการชุดหนึ่งไปตรวจสอบรายละเอียด เพื่อนำกลับมาหารือกันอีกครั้ง วันนี้ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้