'ฝ่ายค้าน' ยอมทุ่ม 30 ชม. ซักฟอก 'บิ๊กตู่' คนเดียว 'เพื่อไทย' ลั่นพร้อมแล้ว เรียงคิวถลก 11 รมต.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค พท. ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค, และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรค ร่วมแถลงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 19-22 กรกฎาคม
นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราต้องยุติ หยุดยั้งการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีรวม 11 คน ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นมาตรการที่หนักในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินในระบบรัฐสภา ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ใช้อำนาจไม่ชอบธรรม เข้าสู่อำนาจและต้องการสืบทอดอำนาจ รวบรวม ส.ส.พรรคร่วม ใช้กลไกบิดเบี้ยวทำลายระบอบประชาธิปไตย ให้อามิสสินจ้าง หรือใช้เงินจนเป็นสภากินกล้วย เป็นนั่งร้านค้ำจุ้นนายกฯ เราจำเป็นต้องชี้ให้เห็นพิษภัย เราต้องเด็ดหัวออกและเอานั่งร้านออกจากการบริหารราชการแผ่นดินให้ได้
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า การลงมติยกมือในสภา ยอมรับว่ายากมากที่เอาชนะได้ เว้นแต่มีหลักฐานในสภาทำให้ ส.ส.และประชาชนเห็น ซึ่งอาจเป็นแรงขับให้พรรคร่วมรัฐบาลหันมายกมือร่วมกับเรา ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ เราเตรียมความพร้อมทั้งข้อมูล หลักฐาน แฉพฤติการณ์พฤติกรรมความผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ ใช้งบประมาณแผ่นดินแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจโปสเตอร์และคลิป เราจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ขอประชาชนช่วยติดตามการอภิปรายวันแรกจนถึงวันสุดท้าย
นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เนื่องจากมีความหมายเป็นอย่างยิ่งต่อชีวิตความเป็นอยู่ ปากท้องของพี่น้องประชาชน และอนาคตของประเทศ เราจึงมุ่งมั่นที่จะทำให้พี่น้องประชาชนได้เห็นธาตุแท้ของเครือข่ายประยุทธ์ที่ประคับประคองกันอยู่ด้วยความเชื่อมโยงของผลประโยชน์และการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ซึ่งเป็นปลายอายุขัยรัฐบาลประยุทธ์ แต่ละพรรคการเมืองต่างมุ่งที่จะกอบโกยงบประมาณประเทศอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่หวั่นเกรงต่อสายตาพี่น้องประชาชน เพียงหวังที่จะใช้สะสมเป็นกระสุนดินดำสำหรับการเลือกตั้งในครั้งต่อไป
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า พรรค พท.มั่นใจในข้อเท็จจริง เอกสาร และหลักฐานในมือที่จะนำไปสู่การเอาผิดผู้ทุจริตและตัวการทุกคนทั้งหมด และหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นลง พรรค พท.จะรวบรวมเอกสารหลักฐานยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ทุจริต และผู้สมรู้ร่วมคิดให้เกิดการทุจริตทุกคนโดยไม่ละเว้น ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องร่วมกันติดตามกาอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้เพื่อนสมาชิกรับฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชน พิจารณาลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเห็นแก่พี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง
นายประเสริฐกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อทยขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาลประยุทธ์ไปกับพรรค พท. ซึ่งได้เปิดกลไกการมีส่วนร่วมผ่านช่องทาง LINE OA เพื่อไทย @pheuthai หรือสแกนคิวอาร์โค้ดจากภาพ พี่น้องประชาชนสามารถมีส่วนร่วมผ่านริชเมนู (Rich Menu) ได้ดังนี้ 1.ลงมติไล่ประยุทธ์ : ร่วมลงมติประชาชนไม่ไว้วางใจประยุทธ์และพวก พร้อมฝากข้อความสั้นๆ ถึง พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีในรัฐบาล ผ่านระบบของ LINE OA เพื่อไทย เพื่อบันทึกการมีส่วนร่วมในภารกิจประวัติศาสตร์ครั้งนี้ร่วมกัน
“2.เสียงประชาชน กดปุ่มเพื่อแสดงความเห็นในประเด็นต่างๆ ส่งเสียงจากประชาชนไปถึง ส.ส.เพื่อไทยในสภาได้ตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร่วมคิดนโยบายกับเพื่อไทย มาร่วมกันเดินหน้าเปลี่ยนรัฐบาล มาร่วมกันคิดนโยบายเพื่อคืนความหวัง สร้างชีวิตใหม่ให้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง” นายประเสริฐกล่าว
ขณะที่นายสุทินกล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการอภิปรายนั้น คณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทำงานร่วมกันมาหลายเดือน โดยจัดเนื้อหา บุคคล และแบ่งเวลากันลงตัวแล้ว โดยจะเริ่มอภิปรายในวันที่ 19 กรกฎาคม เวลา 08.30 น. โดยผู้นำฝ่ายค้านแถลงญัตติและอภิปรายขยายญัตติ จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายรัฐมนตรีเป็นกลุ่ม โดยในวันแรกเริ่มจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตามด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตามด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายสุทินกล่าวว่า จากนั้นวันที่ 20 กรกฎาคม จะเริ่มอภิปราย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตามด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดย พล.อ.ประวิตรและพล.อ.อนุพงษ์จะเป็นการอภิปรายแบบคิวเดี่ยว จากนั้นจะเป็นการอภิปรายชุด 3 ป.ตามด้วย พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงค่ำ โดยเราจะใช้เวลากับ พล.อ.ประยุทธ์ทั้งหมด 30 ชั่วโมง ทั้งนี้ แต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลทำงานด้วยความลงตัว ประสานกันดีมาก มั่นใจว่าการทำงานครั้งนี้จะราบรื่น
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ได้ประสานฝ่ายค้านเพื่อร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า เรายังไม่ปิดทาง แต่พรรค ศท.ยังไม่แจ้งความจำนงเข้ามา เราจะได้หารือว่าเนื้อหาสอดคล้องกันหรือไม่ รวมทั้งตัวบุคคลและเวลาว่าจะใช้เท่าไร หากเป้าหมายตรงกันเราอาจจะจัดสรรเวลาให้ได้ แต่ตอนนี้ยืนยันว่ายังไม่ได้ประสานมา
ด้าน นพ.ชลน่านกล่าวเสริมว่า แล้วแต่พรรค ศท.เลือกแนวทางไหน ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์ ของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ก็เป็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่ได่ร่วมกิจกรรม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกครั้ง แต่ก็มีส่วนร่วมในการอภิปรายด้วย ดังนั้น ถ้าพรรค ศท.ประกาศจะเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคที่ 7 เรายินดีให้ร่วมตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามถึง การควบคุมการลงมติของ ส.ส.งูเห่าของพรรคในการอภิปราย นพ.ชลน่านกล่าวว่า เขายังเป็นสมาชิกพรรค เป็น ส.ส.พรรค มีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายพรรค ซึ่งการอภิปรายไม่ใช่เรื่องปกติ เมื่อลงมติผลเป็นอย่างไรต้องดูรายละเอียด เขาอาจกลับใจเปลี่ยนแปลงการลงมติก็ได้
“เรายังไม่รู้ เราพิจารณาข้อเท็จจริง เรามีคณะกรรมการวินัยของพรรค ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราดำเนินการพิจารณาสอบข้อเท็จจริงอยู่ ส่วนกำหนดโทษก็เป็นไปตามข้อบังคับพรรค” นพ.ชลน่านระบุ