รีเซต

UTPเจาะต่างแดน อัพส่งออกแตะ30% ปริมาณขายยังโตดี

UTPเจาะต่างแดน อัพส่งออกแตะ30% ปริมาณขายยังโตดี
ทันหุ้น
21 ตุลาคม 2563 ( 08:45 )
106
UTPเจาะต่างแดน อัพส่งออกแตะ30% ปริมาณขายยังโตดี

ทันหุ้น –สู้โควิด –UTP ปรับกลยุทธิรุกตลาดต่างแดน เจาะจีน เวียดนาม ไต้หวัน หวังดันสัดส่วนรายได้ส่งออกเพิ่มเป็นกว่า 30% ด้านผู้บริหารประเมินผลงานไตรมาส 4/2563 ดีต่อเนื่อง รับอานิสงส์ e-commerce ขยายตัว ฟากโบรกส่องไตรมาส 3/2563 คาดเติบโตได้ทั้งจากปีก่อนและไตรมาสก่อน ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น เคาะพื้นฐาน 16.50 บาท ชูปันผลจูงใจ 5.4%


นายมงคล มังกรกนก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UTP เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ว่าจะยังคงมีการปรับตัวที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของธุรกิจ รวมถึงการได้รับประโยชน์จากเทรนด์ e-commerce ที่มีการขยายตัวเพิ่ม เพราะธุรกิจหลักที่ทำเกี่ยวกับกระดาษคราฟท์ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำกล่องกระดาษ โดยกระดาษถือเป็นวัสดุสำคัญในการจัดส่งสินค้าทางพัสดุ


*เพิ่มสัดส่วนส่งออก


ทั้งนี้ยอมรับว่าจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กดดันผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทจึงปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่โดยการขยายตลาดและฐานลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน เวียดนาม และไต้หวัน เป็นต้น เพื่อหนุนสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนอยู่ที่ 10% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการขายในประเทศ


สำหรับปัจจุบันบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอย่างเต็มประสิทธิ์ภาพกว่า 85-90% จากกำลังการผลิตที่มีทั้งสิ้นกว่า 260,000 ตันต่อปี อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานจากนี้ไปจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นได้ใกล้เคียงปกติ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและผลไม้ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ตลอดจนลูกค้ากลุ่มเกี่ยวเนื่องอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้น คาดว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 2564 เป็นต้นไป หากว่าไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบ

อย่างไรก็ตาม มองว่าผลการดำเนินงานรวมในปี 2563 นี้ คาดจะเติบโตไม่เท่ากับปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,430.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 863.13 ล้านบาท คงเป็นไปได้ยากเพราะสถานการณ์ในอนาคตค่อนข้างคาดเดาได้ยากเพราะไม่รู้ว่าจะมีปัจจัยใหม่อะไรเข้ามากระทบ รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 จะกดดันต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด


*ปริมาณขายแข็งแกร่ง


บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง UTP ว่าคาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2563 เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน เท่ากับ 239 ล้านบาท เป็นผลจาก 1.ปริมาณขายเพิ่มขึ้น และ 2.อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2563 อ่อนลงเป็น 32.2% จาก 37.4% ในไตรมาส 2/2563 และจาก 32.8% ในไตรมาส 3/2562


ทั้งนี้ UTP เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษลูกฟูกชั้นนำในประเทศ โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 6.6% คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563-2564 เติบโตต่อเนื่อง 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน จากปริมาณขายที่แข็งแกร่ง อัตราการใช้กำลังการผลิตสูง, อัตรากำไรขั้นต้นสูงที่ 36% ทั้งในปี 2563-2564 โดยบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนการผลิตและขายกระดาษคราฟท์ที่มีมาร์จิ้นสูงให้มากขึ้น, ต้นทุนเศษกระดาษยังต่ำ เพราะรัฐบาลจีนมีนโยบายดูแลด้านสิ่งแวดล้อม


รวมถึงการเติบโตของธุรกิจ E-commerce และความระมัดระวังในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร เป็นบวกกับแนวโน้มบริษัท จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมา ทำให้ทางฝ่ายแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 16.50 บาท อิงกับ P/E ปี 2564 ที่ 10.5 เท่า (+1SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง) คาดการณ์ Dividend yield ปี 2563-64 ไว้ที่ 5.4% และ 5.6% ตามลำดับ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง