UTP เป้ายอดขาย 4.5 พันล. ลุยซื้อเครื่องจักร-อัพผลิต
ข่าววันนี้ ทันหุ้น – UTP วางเป้ายอดขายปี 2565ยืนเหนือ 4.5พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าลงทุนเครื่องจักรใหม่ หวังลดต้นทุน-เพิ่มกำลังผลิต รับราคาเศษกระดาษยังผันผวนกรอบสูง ย้ำมั่นใจบริหารจัดการกำไรได้ดี ส่วนปี 2564 คาดทำยอดขายได้เกิน 4 พันล้านบาท เกินเป้าที่วางไว้ ฟากโบรกมองเป็นหุ้นปันผลปี 2564-2565 ในระดับที่น่าพอใจ ราว 4-5% ต่อปี
นายวัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UTP ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษคราฟต์ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทวางเป้ายอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท และจะปรับเพิ่มสัดส่วนการขายกระดาษแผ่นเรียบที่ใช้ทำผิวกล่องหรือลังลูกฟูกเป็นไม่น้อยกว่า 42-45%จากสิ้นปี 2564ที่คาดว่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 40% โดยในปัจจุบันสัดส่วนการขายของกลุ่มสินค้าดังกล่าวอยู่ในระดับที่ 36-38% ซึ่งใกล้เคียงเป้าหมายแล้ว
*ซื้อเครื่องจักร-อัพผลิต
พร้อมกันนี้ บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเพิ่มศักยภาพเครื่องเตรียมเยื่อกระดาษ และเตรียมงบประมาณจัดซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงรองรับความต้องการใช้กล่องกระดาษที่มีแนวโน้มเพิ่มตามปริมาณโรงงานเกิดใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่เขต EEC ที่เริ่มมีผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตเข้ามาต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 3/2565หนุนปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นกว่า 20%และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ได้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ต้นทุนเศษกระดาษนั้น ต้องยอมรับว่ามีความผันผวนในระดับสูงตามดีมานด์การใช้ที่ขยายตัว ดังนั้นจึงปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุน โดยบริษัทจะเน้นการเจรจาซื้อ-ขายเป็นรายเดือน เพื่อให้การส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นให้ลูกค้านั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีกระทบต่อบริษัทมากนัก ทำให้มีกำไรในระดับที่เหมาะสม
*รายได้โค้งท้าย 1.2 พันล.
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2564คาดว่าปริมาณการขายยังคงมีการเติบโตที่ดี ตามความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อส่งสินค้าออก แต่อาจไม่หวือหวามากนักเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปลายปีมีวันหยุดยาว ทำให้ขนส่งสินค้ามีความล่าช้า รวมถึงแนวโน้มการขายในประเทศที่ชะลอตัวลง ทำให้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์เน้นส่งออกมากขึ้นในสัดส่วน 10-15% ของกำลังผลิตที่มีทั้งหมด โดยบริษัทวางเป้ายอดขายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ไว้ที่ราว 1,200 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทคาดว่ายอดขายรวมทั้งปี 2564 จะทำได้มากกว่าเป้าที่วางไว้ 4,000 ล้านบาท หรือมียอดขายกระดาษทั้งปีเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 240,000-250,000 ตัน จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 3,606.46 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้แล้วกว่า 3,414.73 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้งาน “กระดาษคราฟต์” หรือ กระดาษแผ่นเรียบที่ใช้ทำผิวกล่องหรือลังลูกฟูก โดยสินค้าดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ให้กำไรขั้นต้น (Margin) สูง พร้อมกันนี้บริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนกำไรสุทธิให้ใกล้เคียงกับปี 2563 ที่ผ่านมา ที่ระดับ 1,011.42 ล้านบาท
*ชูปันผลสูง 4-5%
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า UTP ยังอยู่ในจุดที่ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งเรื่องของดีมานด์ ชะลอตัวลงในไตรมาส 4/2564และต้นทุนเศษกระดาษโดยเฉลี่ยที่ใช้ผลิตช่วงนี้ยังไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญตามราคาตลาด ส่งผลให้แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2564 เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ (ลดลงทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า) ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลง 6%สะท้อนภาพข้างต้น (แต่ยังคงกำไรปี 2565 ใกล้เคียงเดิม)
อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนสำคัญ แนะนำจับตาว่าต้นทุนเศษกระดาษในประเทศช่วงไตรมาส 1/2565หากยังต่ำมากๆ ต่อ จะเป็นบวกต่อ Margin อย่างไรก็ตาม คาด UTP จะยังคงรักษาระดับเงินปันผลปี 2564-2565 ไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยคาดผลตอบแทนเงินปันผลราว 4-5% ต่อปี ทั้งนี้ จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ "ถือ" และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 18.3 บาท (อิง PER ที่ 12.4 เท่า หรือ 0.5SD สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว)