UTPดีมานด์กล่องดันยอด กำลังผลิตใหม่ดันครึ่งหลัง
#UTP #ทันหุ้น – UTP ดีมานด์ใช้กล่องบรรจุภัณฑ์โตต่อเนื่อง หนุนผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ EEC แย้มครึ่งปีหลังโตต่อจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 20% ดันผลงานปี 2565 เติบโตเข้าเป้า 4.5 พันล้านบาท รับต้นทุนวัตถุดิบยังคงมีแนวโน้มความผันผวนในระดับสูงอยู่กดดันมาร์จิ้นแต่คุมได้ คาดแนวโน้มไตรมาส 2/2565 ฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายวัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UTP ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษคราฟต์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2565แนวโน้มยอดขายมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้งานกล่องกระดาษเพื่อบรรจุผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งเพื่อการจำหน่ายสินค้าภายในประเทศและการส่งออกต่างประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จากการเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุกเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ EEC ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นทุกปี ส่งผลให้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ายอดขายจะดีต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย สะท้อนต่อการผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปีนี้ที่เชื่อว่าจะดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
*ผลงานครึ่งปีหลังเด้ง
สำหรับต้นทุนเยื่อกระดาษ เศษกระดาษ และถ่านหิน ซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ต้องยอมรับว่ายังคงมีแนวโน้มความผันผวนในระดับสูงอยู่ ซึ่งเป็นไปตามดีมานด์การใช้งานที่ขยายตัว แต่บริษัทได้มีการวางกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุนใหม่ โดยบริษัทจะเน้นการเจรจาซื้อ-ขายกับลูกค้าเป็นรายเดือน เพื่อให้ให้ราคาการซื้อขายสอดคล้องไปตามสภาวะในช่วงนั้นๆ
แต่อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2565 จะมีการเติบโตชัดเจนกว่าครึ่งแรกปี เป็นผลมาจากการลงทุนติดตั้งเครื่องจักรผลิตกระดาษคราฟต์ใหม่จะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/2565ทำให้มีกำลังผลิตกระดาษคราฟต์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20%และจะเดินเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565เชื่อว่ายอดขายจะยังเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 1,000-1,200 ล้านบาท และมั่นใจว่ารายได้รวมปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ 4,500 ล้านบาท ในส่วนของมาร์จิ้นก็จะพยายามรักษาระดับไว้ให้ดีที่สุดเช่นกัน แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะมีแนวโน้มผันผวนในระดับที่สูง แต่เราก็เชื่อในการบริหารจัดการที่ดีและสอดคล้องตามสถานการณ์ ทำให้คาดว่ามาร์จิ้นในไตรมาส 2/2565 จะดีขึ้น” นายวัชชระ กล่าว
*ยอดขายทำนิวไฮ
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/2565 โต 31% จากไตรมาสก่อน เป็น 234 ล้านบาท แต่หดตัว 19% YoY ซึ่งการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน มาจากยอดขายในประเทศดีขึ้นและปัจจัยฤดูกาล ส่วนการลด YoY เพราะฐานสูง คาดรายได้ในไตรมาส 1/2565ทำ Record High ที่ 1.34 พันล้านบาท โต 21% YoYและเพิ่มขึ้น 11% QoQ
ด้านยอดขายทั้งปี 2565 คาดว่าจะเติบโต 13% เป็น 5.2 พันล้านบาท ส่วน GPM คาดว่าจะแคบลงเป็น 22% จาก 23.7% ในปี 2564 อย่างไรก็ดี UTP จะติดตั้งเครื่องจักรใหม่ปลายปี 2565 ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มจาก 800 เป็น 1,000 ตันต่อวัน และทำให้สัดส่วนกระดาษคราฟต์ที่มีมาร์จิ้นดีเพิ่มเป็น 50% ของทั้งหมด (จาก 34-40% ในไตรมาส 2/64 และ 1/65) ใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท คงคำแนะนำ "ถือ" ให้ราคาพื้นฐาน 17 บาท