ส่ง ‘ก็อตซิลล่า' รักษาต่อ รพ.สัตว์ ย่านรามอินทรา

วันนี้ ( 8 เม.ย. 64 )ความคืบหน้ากรณี ลิงแสม ชื่อ "ก็อตซิลล่า" อายุ 3 ปี ที่แผงขายลูกชิ้นตลาดมีนบุรี ซึ่งมีรูปร่างอ้วนกว่าลิงปกติ เนื่องจากเจ้าของเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ทำให้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ มารับตัวไปดูแล และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรากลิงจากครอบครัว เกรงว่าเจ้าก็อตซิลล่าจะตรอมใจ

ล่าสุด นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้ย้าย เจ้าก็อตซิลล่า ไปยังโรงพยาบาลสัตว์คริสตัล เพ็ท ย่านรามอินทราแล้ว มีการทำบันทึกส่งมอย-รับมอบ ลงนามโดย สัตวแพทย์หญิงมัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) กับ นายสัตวแพทย์ศุภเสกข์ ศรจิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์คริสตัล เพ็ท เพื่อแบ่งเบาภาระของทางราชการ พร้อมยืนยันว่า จะไม่นำเจ้าก็อตซิลล่า ไปหาผลประโยชน์ใดๆ

ส่วนแผนการรักษา ทั้งการปรับโภชนาการและออกกำลังกาย ทางโรงพยาบาลสัตว์คริสตัล เพ็ท จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งระหว่างการรักษา เจ้าของเดิมสามารถเข้าเยี่ยมได้ แต่เมื่อรักษาหายและมีสุขภาพดีแล้ว เจ้าก็อตซิลล่า จะต้องอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานฯ เพราะเป็นสัตว์ป่า ไม่สามารถนำมาเพาะเลี้ยงในเมืองได้

ส่วนกรณีเฟซบุ๊ก “ใจประเสริฐเพ็ทคลินิก” เรียกร้องให้กรมอุทยานฯ แก้ปัญหาลิงรบกวนคนซึ่งมีอยู่หลายที่ โดยเฉพาะลิงศาลพระกาฬ จังหวัดลพบุรี

ในเรื่องนี้ นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี ยืนยันว่า กรมอุทยานฯ แก้ไขปัยหามาโดยตลอด แต่เนื่องจากลิงที่ลพบุรี มีเป็นจำนวนมาก และอาศัยอยู่หลายจุด เมื่อมารวมกันจึงสร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์ แนวทางแก้ไข คือ การทำหมันเพื่อควบคุมประชากรลิง ส่วนลิงมีนิสัยก้าวร้าว ก็จะนำออกจากพื้นที่

ส่วนกรณี ลิงบุกบ้านเรือนประชาชน เพราะลิงอยู่ที่นี่มานาน เมื่อมีสิ่งปลูกสร้างเข้ามา มันจึงเข้าไปหาอาหาร โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ระบาด อาหารจากนักท่องเที่ยวน้อยลง ลิงจึงออกหาอาหารกินตามบ้านเรือน เจ้าหน้าที่ต้องนำอาหารไปวางไว้บางจุด ส่วนข้อเสนอให้ย้ายลิงไปไว้ที่อื่น เป็นเรื่องยาก เพราะลิงมีจำนวนมาก หากนำไปปล่อยป่า จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และสัตว์ป่าชนิดอื่น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบด้านความเชื่อ เรื่อง “ลิงศาลพระกาฬ” ด้วย