Border Pass แตกต่างกับ Passport อย่างไร?ใช้งานในกรณีไหนได้บ้าง

ไขข้อสงสัย Border Pass แตกต่างกับ Passport อย่างไร?
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ที่ประชุมนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนการยกเว้นค่าผ่านแดน รวมถึงมีการพูดคุยถึงประเด็น Border Pass ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในบริบทของการเดินทางข้ามชายแดน ขณะที่ในโลกโซเชียลมีการถกเถียงและเข้าใจผิดเกี่ยวกับลักษณะและการใช้งานของ Border Pass อย่างแพร่หลาย
เมื่อพูดถึงการเดินทางข้ามประเทศ เรามักจะคุ้นเคยกับเอกสารสำคัญอย่าง หนังสือเดินทาง (Passport) แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ยังมีเอกสารอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า Border Pass ซึ่งมีบทบาทสำคัญสำหรับผู้ที่อาศัยหรือทำงานบริเวณชายแดนและต้องเดินทางข้ามแดนกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อยๆ
วันนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างระหว่าง Border Pass และ Passport เพื่อให้คุณเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นว่า เอกสารทั้งสองนี้มีหน้าที่อย่างไร ใช้งานได้ในกรณีใดบ้าง และเหมาะกับใคร
1. รูปแบบและลักษณะของเอกสาร
- Passport (หนังสือเดินทาง)
หนังสือเดินทางเป็นเอกสารทางราชการที่ออกให้กับพลเมืองของแต่ละประเทศเพื่อใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลก มีรูปแบบเป็นเล่มเล็ก มีข้อมูลส่วนบุคคล รูปถ่าย และข้อมูลการออกหนังสือเดินทาง รวมถึงที่สำหรับประทับตราวีซ่าหรือประทับตราผ่านแดนจากประเทศต่างๆ
- Border Pass (บัตรผ่านแดน)
Border Pass เป็นเอกสารที่ออกให้กับบุคคลที่อาศัยหรือมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ชายแดน เพื่อใช้เดินทางข้ามเขตแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น ลักษณะอาจเป็นเล่มเล็กคล้ายหนังสือเดินทางหรือเป็นบัตรที่มีข้อมูลส่วนตัวและระบุเขตที่สามารถใช้เดินทางได้ โดยมักมีข้อจำกัดด้านระยะทางและระยะเวลาการใช้งาน
2. วัตถุประสงค์การใช้งาน
- Passport
ใช้สำหรับการเดินทางข้ามประเทศทั่วไป ไม่จำกัดเขตหรือระยะทาง สามารถใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว ทำงาน หรือพำนักอาศัยในต่างประเทศตามกฎหมายและเงื่อนไขของแต่ละประเทศ สามารถเดินทางได้ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
- Border Pass
ออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ชายแดน สามารถเดินทางข้ามแดนกับประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้นในพื้นที่จำกัด เช่น พื้นที่ชายแดนที่มีระยะห่างไม่เกิน 3-30 กิโลเมตร โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางปกติ หรือขอวีซ่าที่ซับซ้อนเหมือนการเดินทางทั่วไป ใช้สำหรับเข้าออกเขตแดนแบบชั่วคราวหรือถาวรในบริเวณชายแดนเท่านั้น
3. ขอบเขตการเดินทาง
- Passport
เดินทางได้ทั่วโลก ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดวีซ่าของประเทศปลายทางและเงื่อนไขการเดินทางระหว่างประเทศ
- Border Pass
จำกัดพื้นที่เดินทางเฉพาะชายแดนเท่านั้น เช่น ใช้เดินทางระหว่างจังหวัดชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย ไม่สามารถใช้เดินทางเข้าพื้นที่ภายในประเทศของอีกฝ่ายหรือเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ได้
4. ประเทศที่ไทยมีข้อตกลงใช้ Border Pass
ประเทศไทยมีข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านในการใช้ Border Pass สำหรับการเดินทางข้ามแดนในบริเวณชายแดน ได้แก่
- สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ลาว)
- ราชอาณาจักรกัมพูชา (กัมพูชา)
- สหภาพเมียนมา (เมียนมา)
- มาเลเซีย
โดย Border Pass เหล่านี้จะออกให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่มีความสัมพันธ์และความจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตแดนในระยะสั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขาย การทำงาน หรือเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องในบริเวณพื้นที่ชายแดน
5. ระยะเวลาการใช้งานและการต่ออายุ
- Passport
มีอายุประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ สามารถต่ออายุได้ตามกฎหมาย
- Border Pass
มีทั้งแบบถาวรและชั่วคราว เช่น แบบถาวรมีอายุประมาณ 1 ปี ใช้เข้าออกได้หลายครั้ง ส่วนแบบชั่วคราวมีอายุสั้น อาจใช้ได้ 7 วัน หรือใช้เข้าออกได้ครั้งเดียว ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
6. กระบวนการขอและการลงทะเบียน
- Passport
ผู้ขอต้องยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ (กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง) พร้อมส่งเอกสารและรูปถ่ายตามที่กำหนด
- Border Pass
มักจะมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่ง่ายและรวดเร็วกว่า เพื่อให้คนในพื้นที่ชายแดนสามารถใช้เดินทางได้สะดวก โดยต้องยื่นคำขอที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ชายแดน และมักมีข้อกำหนดจำเพาะ เช่น ต้องเป็นผู้มีถิ่นฐานในพื้นที่ชายแดน และใช้ได้เฉพาะด่านผ่านแดนที่ระบุไว้
7. ตัวอย่างการใช้งานในประเทศไทย
- ชาวไทยที่อาศัยตามชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย สามารถใช้ Border Pass ในการเดินทางเข้า-ออกด่านชายแดนได้สะดวกโดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางปกติ
- ในกรณีเดินทางไกลหรือเดินทางเข้าพื้นที่อื่นๆ นอกเขตชายแดน ต้องใช้ Passport และปฏิบัติตามข้อกำหนดวีซ่าของประเทศปลายทาง
Border Pass จึงเป็นเอกสารสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางข้ามแดนระยะสั้นในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ Passport เหมาะกับการเดินทางระยะไกลทั่วโลก
ถ้าคุณอาศัยในพื้นที่ชายแดนหรือมีความจำเป็นต้องข้ามแดนบ่อยในระยะสั้น Border Pass จะช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าต้องเดินทางทั่วไป ต้องใช้ Passport เท่านั้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
