SHR จัดงบ 7.5 พันล้าน ลุยลงทุน ซื้อโรงแรม-รีสอร์ตตุนพอร์ต

#SHR #ทันหุ้น - SHR แผนปี 2567 วางงบ 1,000 ล้านบาท ปรับปรุงโรงแรมดันค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR)

พร้อมวางงบ 3 ปี (2567-2569) ราว 7,500 ล้านบาท จ่อ M&A และซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเติมพอร์ต ผลงานไตรมาส 4/2566 เติบโตตามไฮซีซัน อัตราการเข้าพักเพิ่ม (OCC) หนุนค่า ADR เพิ่ม

นายอิศรินทร์  ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับปรับปรุงห้องพักบนโรงแรมเดิมที่มีอยู่ รวมถึงวางบลงทุนกว่า 7,500 ล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) เพื่อใช้ในการซื้อกิจการ (M&A) โรงแรมและสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Leisure Destination ต่างๆ เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทเพิ่มตามเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการพักผ่อนและการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ ส่งมอบโอกาสในการท่องเที่ยวและการเข้าพักในโรงแรมและรีสอร์ทระดับบนในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable luxury) ภายใต้การให้บริการที่เป็นเลิศในทุกด้าน โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัยและชีวอนามัยสูงสุด

จากปัจจุบัน บริษัทมีโรงแรมตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมีชื่อเสียงระดับโลก ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณะรัฐมัลดีฟส์ สาธารณะรัฐหมู่เกาะฟิจิ สาธารณะรัฐมอริเชียส และสหราชอาณาจักร โดยทำเลที่ตั้งของโรงแรมมีความกระจายตัวทั้งในเชิงภูมิศาสตร์ที่ตั้งฤดูกาลท่องเที่ยว

ส่วนแผนงานปี 2567 บริษัทยังคงมีเป้าหมายจะเสริมสร้างการเติบโตและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของโรงแรมในหลายๆแห่ง รวมถึงยังคงมีแผนยกระดับโรงแรมอย่างต่อเนื่องทั้งในโรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต และโรงแรมในภูมิภาคอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้ EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้น

*ไฮซีซันหนุน

ทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4/2566 จะเติบโตต่อเนื่องเพราะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงแรมในหลายๆ แห่ง ทั้งโรงแรมในประเทศไทย และประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 นี้ โรงแรม SO/ Maldives ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ เเละเปิดให้บริการต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ Crossroads เป็นอย่าง ประกอบกับโรงแรมในสาธารณรัฐมอริเชียสจะกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคม 2566 นี้ หลังจากถูกปิดปรับปรุงในช่วงไตรมาส 2-3 ของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากระดับก่อนปิดให้บริการ

รวมถึงโรงแรม SAii Laguna  ที่ภูเก็ตและหมู่เกาะพีพี กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ในช่วงกลางเดือน ธันวาคม2566 นี้ ซึ่งห้องที่ผ่านการปรับปรุงใหม่จะมีรายได้เฉลี่ยต่อวัน (ADR) เพิ่มขึ้น 20-25% นอกจากนี้โดยรวมบริษัทมองว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าหรือช่วงไตรมาส 1/2567 เนื่องจากไม่มีโรงแรมที่ปิดปรับปรุงเลย

*เคาะเป้า 3.26 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ระบุว่า RevPar ของ SHR ในไตรมาสที่ 4/2566 จะได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและการกลับมาเปิดดําเนินงานโรงแรมแม้ว่าโรงแรมบางทําเล โดยผู้บริหาร คาดรายได้ต่อห้องต่อคืน (RevPar) จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย โดยมีปัจจัยหนุนจากโรงแรมในประเทศไทย มัลดีฟส์และมอริเชียส

ตั้งเป้าอัตราการเติบโตรายได้เพิ่มขึ้น 10-15% ในปี 2567 ยังเน้นการใช้กลยุทธ์หมุนเวียนสินทรัพย์ (Asset Rotation Strategy) ของพอร์ตโรงแรมที่อังกฤษ อย่าง เลสเตอร์ เอดินเบิร์ก และแมนเชสเตอร์ รวมถึงจะมีการรีแบรนด์

ขณะที่โรงแรมที่ผลการดําเนินงานอ่อนแอจะถูกขายออกไปเพื่อลดภาระหนี้ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายพอร์ตโดยรวมของอัตราการเติบโตรายได้จากภายใน (Organic Growth) ที่ 10-15% ในปี 2567 ฝ่ายวิเคราะห์ คงประมาณการกําไรปกติอยู่ที่ 23 ล้านบาท ในปี 2566 และ104 ล้านบาท ในปี 2567 คงคําแนะนําถือ ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 3.26 บาท