รีเซต

‘ชัชชาติ’ ลุย ถ.ทรงวาด กำจัดจุดอ่อนน้ำท่วม เล็งเพิ่ม ‘กระสอบทราย-เครื่องสูบเคลื่อนที่เร็ว’

‘ชัชชาติ’ ลุย ถ.ทรงวาด กำจัดจุดอ่อนน้ำท่วม เล็งเพิ่ม ‘กระสอบทราย-เครื่องสูบเคลื่อนที่เร็ว’
มติชน
25 กรกฎาคม 2565 ( 18:57 )
101
‘ชัชชาติ’ ลุย ถ.ทรงวาด กำจัดจุดอ่อนน้ำท่วม เล็งเพิ่ม ‘กระสอบทราย-เครื่องสูบเคลื่อนที่เร็ว’

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ และคณะ ลงพื้นที่สำรวจจุดอ่อนน้ำท่วม รับฟังปัญหาจากเจ้าของอาคารและประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนหารือรูปแบบดำเนินการงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์

 

 

นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.แก้ปัญหาน้ำท่วม จากน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน ด้วยการทำคันกั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 88 กิโลเมตร ของ กทม.ดูแล 80 กิโลเมตร เอกชนดูแลประมาณ 8 กิโลเมตร โดยระดับน้ำวิกฤตพ้นคันกั้นน้ำอยู่ที่ 2,000-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งตอนนี้ทางกรมชลประทานปล่อยน้ำมา 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่ายังไม่วิกฤตมาก อย่างไรก็ตาม คันกั้นน้ำมีจุดที่ไม่ได้สร้าง หรือจุดฟันหลอ เช่น บริเวณท่าเรือ, ที่ดินที่คนไม่ให้ก่อสร้าง มีอยู่ 23 จุด โดยปีนี้ได้รับงบประมาณก่อสร้างซ่อมแซม 13 จุด แต่ก็สร้างไม่ทันกับฤดูน้ำหลาก ต้องเตรียมกระสอบทรายอุดเพิ่มไว้ ทั้งนี้ได้มีการตั้งงบประมาณปีหน้า สร้างจุดที่ฟันหลอให้ครบหมดทุกจุด

 

สำรับพื้นที่บริเวณถนนทรงวาด ยังมีไม่มีคันกั้นน้ำ 215 เมตร โดยพึ่งได้รับงบประมาณก่อสร้าง ส่วนอีก 17 เมตร ยังเจรจาไม่ได้ ซึ่งต้องนำกระสอบทรายมาตั้งชั่วคราว ส่วนสำนักงานเขตต้องเตรียมกระสอบทรายในกรณีฉุกเฉิน เพราะเมื่อน้ำทะลักเข้ามาแล้วการนำน้ำออกทำได้ยาก ส่วนกรณีที่มีน้ำลอดซึมใต้คันกั้นนั้น เหตุเพราะมีอายุก่อสร้างมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งต้องมีการซ่อมบำรุงต่อไป ด้านกรมชลประทาน มีการประสานงานการปล่อยน้ำกับ กทม.มาโดยตลอด ซึ่งในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ จะเป็นการปล่อยน้ำออมามากที่สุด แต่ไม่ตรงกับช่วงน้ำทะเลหนุนสูง

 

 

“การป้องกันน้ำท่วมดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ โดยปรับแผนงบประมาณของปี 2566 ให้สอดคล้องกับความต้องการมากขึ้น ขณะเดียวกันเชื่อว่ามียุทธศาสตร์ที่เสริมได้ เช่นการทำปั๊มน้ำเคลื่อนที่ จะเห็นว่าปัจจุบันฝนตกหนักเป็นหย่อมๆ เพราะภาวะโลกร้อน เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เร็วปัจจุบันมีแค่ 4 ตัว ซึ่งไม่เพียงพอ ต้องมีให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยดูดน้ำตามหมู่บ้าน เส้นเลือดฝอย หน่วยเคลื่อนที่เร็วต้องมีให้มากขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

 

นายชัชชาติกล่าวว่า ด้านพื้นที่ระบายน้ำเส้นเลือดใหญ่ ก็พบปัญหาซ้ำซากตาม ซอยพัฒนาการ 54 ซอยพัฒนาการ 58 ซอยลาดพร้าว 64 ถนนประชาอุทิศ ซึ่งต้องมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปช่วย อีกยุทธศาสตร์ที่ต้องทำคือ การปรับประสิทธิภาพของคลอง อย่างคลองลาดลาดพร้าว คลองแสนแสบ ต้องมีการขุดลอก โดยทางกองทัพบกจะเป็นผู้ขุดลอกคลองลาดพร้าว โซนกรุงเทพฯ เหนือ เช่น หลักสี่ สายไหม ดอนเมือง ส่วนโซนกรุงเทพฯ ใต้ ใกล้คลองแสนแสบ กทม.จะเป็นคนขุดลอกเอง

 

 

“เมื่อช่วงเช้าท่านแม่ทัพ พูดถึงการพร่องน้ำแก้มลิงบริเวณสนามเป้า ซึ่งมีมีแก้มลิงข้างในเยอะ ถ้ามีน้ำท่วมแถวดินแดง ก็จะให้ทางทหารช่วยพร่องน้ำข้างในหน่วยทหารไว้ก่อน ถ้ามีเหตุฉุกเฉินก็สามารถดันน้ำเข้าไปข้างในได้ ด้านท่านนายกก็ดีช่วยเหลือกัน เป็นสัญญาณที่ดีมากเลย ทุกคนก็ร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน” นายชัชชาติกล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง