รีเซต

จับตาประชุม COP30 โลกร้อนเกินควบคุม! แผนลดคาร์บอนทั่วโลกยังไม่พอ

จับตาประชุม COP30 โลกร้อนเกินควบคุม! แผนลดคาร์บอนทั่วโลกยังไม่พอ
TNN ช่อง16
29 ตุลาคม 2568 ( 11:00 )
3

รายงานการวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่า แผนรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ประเทศต่าง ๆ ยื่นต่อองค์การสหประชาชาติยังคงไม่เพียงพอต่อการหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงที่สุดของภาวะโลกรวน

จนถึงขณะนี้ มีมากกว่า 60 ประเทศที่ได้ยื่นแผนระดับชาติเพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทศวรรษหน้า โดยหากนำแผนเหล่านี้มารวมกัน จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้เพียงราว 10% ภายในปี 2578 เมื่อเทียบกับระดับปี 2562 ซึ่งเป็นเพียงประมาณ 1 ใน 6 ของการลดลงที่จำเป็นหากโลกต้องการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส

เลขาธิการบริหารของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “ไซมอน สตีล” ระบุว่า ประเทศต่าง ๆ กำลังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและเริ่มวางแนวทางที่ชัดเจนเพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ แต่ย้ำว่าความเร็วของการดำเนินการในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องเร่งการลงมือโดยทันที

รายงาน “สรุปภาพรวมประจำปี” ของสหประชาชาติ ระบุว่าหากรวมแผนของจีน สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาไว้ด้วย การลดลงรวมจะอยู่เพียงระดับ 10% เท่านั้น โดยจีนให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนลงเพียง 7–10% จากระดับสูงสุดภายในปี 2578 ขณะที่สหภาพยุโรปยังมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องขอบเขตการลดคาร์บอนในช่วง 62–72.5% ส่วนสหรัฐอเมริกาอาจไม่ปฏิบัติตามแผนเดิม หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะแยกตัวออกจากความตกลงปารีสอีกครั้ง

แม้รายงานจะไม่ได้ระบุการคาดการณ์อุณหภูมิโลกที่อาจเพิ่มขึ้นจากแผนเหล่านี้ แต่ยืนยันว่าผลรวมของคำมั่นปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการรักษาอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม ผู้นำจากทั่วโลกเตรียมเข้าร่วมการประชุมระดับสูงที่ ประเทศบราซิลในสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมการก่อนการประชุมสุดยอดสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “COP30” ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองเบเลง ประเทศบราซิล ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ โดยจะเน้นการกำหนดแนวทางให้โลกกลับเข้าสู่เส้นทางตามเป้าหมายความตกลงปารีส และพิจารณาการสนับสนุนทางการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนาในการลดการปล่อยก๊าซและรับมือผลกระทบจากภาวะโลกรวน

ด้าน “แกเร็ธ เรดมอนด์-คิง” จากสถาบัน Energy and Climate Intelligence Unit กล่าวว่าคำมั่นสัญญาใหม่ของหลายประเทศช่วยให้โลกเริ่มเห็นทิศทางที่ดีขึ้น แต่ย้ำว่ายังไม่เร็วพอที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นทางเดียวในการป้องกันผลกระทบจากโลกร้อนที่รุนแรงและมีต้นทุนสูงในอนาคต

ขณะที่ “สเตฟเฟน เมนเซล” จากสถาบัน E3G เห็นว่ารายงานนี้สะท้อนความจำเป็นเร่งด่วนของการนำและการประสานงานระดับโลก โดยเตือนว่าความล่าช้าและคำมั่นที่ไม่เพียงพอจากประเทศผู้ปล่อยก๊าซรายใหญ่ เช่น สหภาพยุโรปและจีน กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นในข้อตกลงปารีสอย่างเห็นได้ชัด


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ และ เจ้าชายวิลเลียม จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำก่อน COP30 โดยสหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศแรก ๆ ที่ยื่นแผน NDC ซึ่งได้รับการประเมินว่าเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม แผนลดการปล่อยคาร์บอนภายในประเทศที่รัฐบาลต้องเสนอในสัปดาห์นี้จะเป็นบททดสอบสำคัญ เนื่องจากยังมีข้อกังขาว่าจะสามารถทำให้ภาคพลังงานไฟฟ้าปลอดคาร์บอนได้จริงภายในปี 2573 หรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง