SCCงบQ3ส่อขาดทุน เชื่อพลิกกำไรโค้งท้าย

#SCC #ทันหุ้น – SCC  ไตรมาส 3/2568 ส่อขาดทุน 500-700 ล้านบาท หวั่นมีแรงขายทำกำไร หลังราคาขึ้นมาด้วยความหวังการฟื้นตัวล่วงหน้า  แต่เชื่อไตรมาส 4/2568 พลิกมีกำไรตามปัจจัยฤดูกาล หวังวัฏจักรขาลงปิโตรเคมีจบรอบเร็ว แถมมีปันผลรับเพิ่มขึ้น ราคาเป้าพื้นฐาน 210-246 บาท ยกเป็นตัวเด่นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง หนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเทศสำคัญในอาเซียนส่งผลดีต่อเนื่องยาว

นายปรินทร์  นิกรกิตติโกศล  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า คาดการณ์ผลประกอบการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ที่จะประกาศออกมาวันนี้ อาจไม่ดีนัก โดยไตรมาส 3/2568 มีโอกาสขาดทุนประมาณ 600 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 4/2568 สถานการณ์จะพลิกกลับมาฟื้นตัวชัดเจน ด้วยปัจจัยฤดูของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และจะมีรายได้จากเงินปันผลรับเข้ามาเพิ่มเติมด้วย

@โอกาสฟื้นตัวเร็ว

โดยภายใต้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีแรงกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน แต่ยังต้องติดตามส่วนต่างราคา (สเปรด) จะฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากหลายประเทศเริ่มมีมาตรการเข้ามาดูแลเรื่องโอเวอร์ซัพพลายแล้ว ซึ่งจะช่วยให้วัฏจักรขาลง (Down Cycle) มีโอกาสสิ้นสุดรอบเร็วขึ้น

ส่วนประเด็นธุรกิจบรรจุภัณฑ์โดยบริษัทลูกคือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นอย่างมีเงื่อนไขในกิจการบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษลูกฟูกในประเทศอินโดนีเซีย มูลค่ากิจการรวมไม่เกิน 956 ล้านบาท นั้น ประเมินไม่ได้ส่งผลใดมากอย่างมีนัยต่อ SCC  ซึ่งยังต้องรอติดตามรายละเอียดต่อไป

สำหรับคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ ควรรอซื้อหุ้น SCC เมื่อราคาอ่อนตัวหลังงบไตรมาส 3/2568 ประกาศออกมาแล้ว ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 234 บาท

@เสี่ยงโดนขายทำกำไร

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาด SCC ในไตรมาส 3/2568 จะขาดทุนสุทธิ 500 ล้านบาท ลดลง 169.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 102.9% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยธุรกิจเคมีภัณฑ์จะอ่อนตัวลงจากส่วนต่างราคา PE และ PP ที่ลดลง 9-16% ขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าผลดีของการปรับราคาขายปูนซีเมนต์ที่สูงขึ้น และผลขาดทุนที่ลดลงของ Fajah ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCGP

สำหรับแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะกลับมาเป็นบวก จากรายได้เงินปันผลที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะชดเชยผลกระทบของอุปสงค์ตามฤดูกาลที่ลดลงของธุรกิจ และมองว่า Downside จากธุรกิจเคมีภัณฑ์มีจำกัด เนื่องจากปัจจุบันส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ได้อยู่ต่ำกว่าต้นทุนเงินสด ในขณะที่อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงก่อนสิ้นปี  แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SCC ให้ราคาเป้าหมาย 246 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่าความเสี่ยงที่จะเห็นแรงทำกำไรระยะสั้นในช่วงประกาศงบไตรมาส 3/2568 จากผลประกอบการที่คาดขาดทุน 698 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น SCC ปรับขึ้นมาแล้วชัดเจนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บนความหวังเชิงบวกต่อแผนการพลิกฟื้นธุรกิจ  ประเมินราคาเหมาะสม 210 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ตลาดวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ในไทยและประเทศหลักของอาเซียน มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าความต้องการจะขยายตัวต่อไปจนถึงปีหน้า โดยมีอัพไซด์จากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนต่อความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในภูมิภาค ขณะที่ราคาขายในประเทศมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกในปี 2569

โดยให้มุมมอง “เท่ากับตลาด” ต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง  ซึ่ง SCC เป็นหุ้นเด่นจากโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลายและโอกาสรับอานิสงส์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในประเทศ