แนะนำวิธีป้องกัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพ ในปี 2025

ปัจจุบันในปี 2025 ภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพยังคงระบาดหนักในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างน้อยก็มีข่าวดี คือ ตอนนี้เรามีเครื่องมือและแอปพลิเคชันที่ช่วยป้องกันและระบุเบอร์แปลกๆ ได้ดีขึ้นมาก ทำให้เราปลอดภัยจากการถูกหลอกได้ง่ายขึ้นเยอะ และนี่คือแอปพลิเคชันหลักๆ ที่น่าสนใจซึ่งทีมงาน TrueID ขอแนะนำแอปสำหรับการป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทยกันครับ ดังนี้เลย
1. True CyberSafe
True CyberSafe เป็นบริการป้องกันภัยไซเบอร์ที่พัฒนาขึ้นโดย True เพื่อปกป้องลูกค้าจากภัยคุกคามออนไลน์ เช่น ลิงก์ปลอม โทรศัพท์หลอกลวง และ SMS ชวนหลงกล โดยใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงในการสแกน บล็อก และแจ้งเตือนภัยแบบเรียลไทม์ จุดเด่นคือ ไม่ต้องสมัคร ไม่ต้องโหลดแอป และ ฟรี! สำหรับลูกค้า True, dtac และ TrueOnline (เน็ตบ้าน)
ฟีเจอร์เด่นของ True CyberSafe:
- บล็อกลิงก์อันตรายแบบเรียลไทม์
- Call AI Filter คัดกรองหรือแจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่อาจเป็นมิจฉาชีพ
- SMS AI Filter แจ้งเตือนเมื่อมี SMS ต้องสงสัย
ภาพจาก true.th
นอกจากนี้ยังมี บริการเสริม “9777 แจ้งบล็อกสายมิจฉาชีพ Scam Report”:
เป็นบริการที่เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้การรายงานสายมิจฉาชีพทำได้ง่ายและครบวงจร (One Stop Service) ผ่าน 3 ช่องทาง คือ
- กด 9777# โทรออก: เพื่อแจ้งเบอร์ล่าสุดที่เพิ่งโทรเข้าภายใน 5 นาทีหลังรับสาย
- กด 9777 ตามด้วยเบอร์ต้องสงสัย # โทรออก: เพื่อแจ้งระบุเบอร์ดังกล่าว
- แคปหน้าจอ: ที่แสดงข้อความ หมายเลข และลิงก์ต้องสงสัย แล้วส่ง MMS ไปที่หมายเลข 9777
โดยข้อมูลที่แจ้งเข้ามาจะถูกตรวจสอบ คัดกรองด้วยทีมงานพิเศษและระบบ AI อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง และหากเป็นมิจฉาชีพจริง จะมีการบล็อกเบอร์นั้นทันทีตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฯ
2. DE-fence (แพลตฟอร์มภาครัฐ)
DE-fence เป็นแอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดที่ภาครัฐ (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กสทช., ตำรวจ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม) ร่วมมือกันพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นเกราะป้องกันภัยไซเบอร์สำหรับคนไทย โดยตอนนี้เปิดให้บริการเวอร์ชันทดลอง (BETA version) แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นมา
โดยจุดเด่นของแอปนี้คือ
- ระบุเบอร์โทรศัพท์มิจฉาชีพ: ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่จากภาครัฐและผู้ให้บริการโทรคมนาคมในการระบุเบอร์โทรศัพท์ที่เคยถูกรายงานว่าเป็นมิจฉาชีพหรือก่อกวน
- บล็อกเบอร์และ SMS สแปม: ช่วยบล็อกสายที่ไม่พึงประสงค์และข้อความ SMS หลอกลวงได้
- แจ้งเบาะแส: สามารถแจ้งเบาะแสข่าวปลอมและอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบผ่านแอปได้โดยตรง หรือผ่านสายด่วน 1111
- ดาวน์โหลด: สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งบน Google Play Store และ Apple App Store โดยค้นหาชื่อ "DE-fence"
3. Whoscall
Whoscall เป็นแอปยอดนิยมอันดับต้นๆ ที่คนไทยใช้กันมานานและได้ผลดีเยี่ยม มีฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ขนาดใหญ่ที่เกิดจากการรวมรวมข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลก รวมถึงมีระบบ AI อัจฉริยะช่วยคัดกรอง โดยจุดเด่นของแอปนี้ มีดังนี้:
- ระบุเบอร์ที่ไม่รู้จัก: แสดงข้อมูลผู้โทรเข้าทันที แม้จะเป็นเบอร์ที่เราไม่เคยบันทึกไว้ในเครื่องก็ตาม
- บล็อกสายสแปมและมิจฉาชีพ: สามารถบล็อกเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกรายงานว่าเป็นเบอร์สแปมหรือมิจฉาชีพได้อัตโนมัติ
- สแกนความเสี่ยงลิงก์: ช่วยตรวจสอบความปลอดภัยของลิงก์ที่ได้รับผ่าน SMS หรือแพลตฟอร์มต่างๆ
- รายงานเบอร์และข้อความน่าสงสัย: ผู้ใช้สามารถร่วมกันรายงานเบอร์โทรหรือข้อความที่น่าสงสัยเพื่อช่วยอัปเดตฐานข้อมูล
- ฟีเจอร์พรีเมียม: มีเวอร์ชันพรีเมียมที่ปลดล็อกฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น อัปเดตฐานข้อมูลอัตโนมัติ บล็อกสายสแปมอัตโนมัติที่รายงานบ่อยๆ
- ดาวน์โหลด: มีให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งบน Google Play Store และ Apple App Store
4. Truecaller
TrueCaller จะคล้ายกับ Whoscall ในด้านการระบุตัวตนและบล็อกเบอร์ที่ไม่รู้จัก มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และมีความสามารถดังนี้
- ระบุเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก: แสดงชื่อผู้โทรเข้า แม้เบอร์นั้นจะไม่ได้อยู่ในสมุดโทรศัพท์ของคุณ
- บล็อกเบอร์โทรศัพท์: สามารถบล็อกเบอร์ที่เราไม่ต้องการรับสายได้
- รายงานเบอร์สแปม/หลอกลวง: ผู้ใช้สามารถร่วมกันรายงานเบอร์ที่น่าสงสัยได้
- บันทึกการโทร: มีฟังก์ชันบันทึกการโทร (อาจมีข้อจำกัดในบางระบบปฏิบัติการ)
- ดาวน์โหลด: มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Google Play Store และ Apple App Store
5. Hiya: Spam Blocker & Caller ID
Hiya: Spam Blocker & Caller ID เป็นแอปพลิเคชันที่เน้นการบล็อกสแปมและระบุ Caller ID โดยใช้ฐานข้อมูลผู้ใช้ทั่วโลก โดยมีความสามารถดังนี้
- บล็อกสายสแปมและหลอกลวง: ระบุและบล็อกการโทรที่ไม่ต้องการ
- แสดงข้อมูลผู้โทร: แสดงข้อมูลผู้โทรที่ไม่รู้จัก
- ค้นหาเบอร์โทรศัพท์: สามารถค้นหาข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์ที่สงสัยได้
- ดาวน์โหลด: มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Google Play Store และ Apple App Store
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับการป้องกัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพ :
- ดาวน์โหลดแอปที่น่าเชื่อถือ: ควรดาวน์โหลดแอปจาก App Store หรือ Google Play Store เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย เพราะส่วนใหญ่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และมิจฉาชีพ จะหลอกล่อให้เราเข้าไปดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางบางโซเชียลเน็นเวิร์ค เมื่อเราติดตั้งแอปนั้นๆ แล้ว ก็ทำการล็อคเครื่องเรา และดูดเงิน เป็นต้น
- เปิดการตั้งค่าที่จำเป็น: หลังจากติดตั้งแอปป้องกันแล้ว อย่าลืมเข้าไปเปิดการตั้งค่าที่จำเป็นในโทรศัพท์ เพื่อให้แอปสามารถระบุและบล็อกสายได้เต็มประสิทธิภาพ (เช่น การเข้าถึงข้อมูลการโทร)
- ใช้ควบคู่กัน: การมีแอปอย่าง True CyberSafe, DE-fence (ซึ่งเป็นข้อมูลจากภาครัฐ) ควบคู่ไปกับ Whoscall หรือ Truecaller (ซึ่งมีฐานข้อมูลจากผู้ใช้ทั่วโลก) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันได้มากยิ่งขึ้น
- ไม่กดลิงก์แปลกปลอม: ไม่ว่าจะมีแอปป้องกันที่ดีแค่ไหน ก็ยังคงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรคลิกลิงก์แปลกปลอมที่ส่งมาทาง SMS หรือช่องทางอื่น ๆ โดยเด็ดขาด
- แจ้งเบาะแส: หากพบเบอร์มิจฉาชีพ ควรแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สายด่วน 1111 หรือแอป DE-fence เพื่อช่วยปกป้องคนอื่น ๆ ในสังคม
การมีแอปป้องกันคอลเซ็นเตอร์ติดเครื่องไว้ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ เพื่อเป็นเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ที่เข้ามาคุกคามเราในทุกรูปแบบครับ
Photo Credit : AI Generated, Google Play Store