รีเซต

MEGAปั้นมูลค่าสินค้าทำเงิน ยา-วิตามินขายดีดันงบQ2

MEGAปั้นมูลค่าสินค้าทำเงิน ยา-วิตามินขายดีดันงบQ2
ทันหุ้น
6 มิถุนายน 2566 ( 15:17 )
53
MEGAปั้นมูลค่าสินค้าทำเงิน ยา-วิตามินขายดีดันงบQ2

EGA เผยไตรมาส 2/2566 งบดีต่อเนื่อง เดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ เล็งปี 2566 ออกสินค้ากว่า 25 รายการ และมีการพัฒนาอยู่กว่า 152 รายการ และเจรจาร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาสินค้าด้วย เดินหน้าลงทุนโรงงานในอินโดนีเซีย หวังโกยยอดเพิ่ม พร้อมศึกษาโอกาสขยายเวียนนาม มองโอกาส M&A ต่อยอด โบรกเคาะเป้าหมาย 65 บาท

 

นายวิเวก  ดาวัน  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA เปิดเผยว่าทิศทางผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 คาดว่าจะออกมาดี เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 โดยการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมาถือว่าธุรกิจกลับมาอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว และเป็นไตรมาสที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเกิดโควิด-19 หรือปี 2562 และปี 2563 ส่วนการที่โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดช่วงไตรมาสนี้ มองว่าสินค้าเกี่ยวกับโควิดอาจจะลดลง แต่ในส่วนของยอดขายจะมุ่งไปยังกลุ่มคนที่จะสนใจดูแลสุขภาพมากกว่าปกติ และมีการดูแลสุขภาพต่อเนื่องเพิ่มขึ้น เช่นการบำรุงด้วยวิตามินต่างๆ เป็นตัน

 

พัฒนาสินค้าต่อยอด

 

ขณะเดียวกันในปัจจุบันบริษัท ยังเดินหน้าในการพัฒนาวิจัยสินค้า ซึ่งจะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องอีกกว่า 152 รายการ โดยจะเน้นสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค สำหรับปีนี้จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 25 รายการ ส่วนที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2565 มีการออกสินค้าใหม่ไปแล้วกว่า 39 รายการ นอกจากนี้บริษัทยังมีการร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งยา ยาสามัญ อาหารเสริม และอื่นๆ

 

ทั้งนี้ บริษัทมีการใช้เงินลงทุนในช่วงปี 2566-2567 จำนวน 340 ล้านบาท โดยในประเทศไทย มีการก่อสร้างโรงงานในประเทศไทยที่รวมการดำเนินงานไว้ด้วยกัน และขยายกำลังการผลิต จำนวน 137 ล้านบาท และลงทุนด้านความยั่งยืนในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จำนวน 43 ล้านบาท ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย : ก่อสร้างโรงงานผลิตยาในรูปแบบใหม่ คลังสินค้า และพัฒนาโรงงานผลิตยาที่ได้มาในประเทศอินโดนีเซียจำนวน 160 ล้านบาท เพื่อสามารถขึ้นทะเบียนยาได้ และคาดว่า ภายใน 5 ปีจะสร้างรายได้ 20-30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ส่วนธุรกิจในประเทศเทศเมียนมา แม้ว่าจะมีปัญหาภายในประเทศ แต่บริษัทยืนยันว่าธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง และจะไม่มีการยึดสินทรัพย์เป็นของรัฐบาลอย่างแน่นอน มองว่ายาก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องใช้ แต่โอกาสในการเติบโตอาจจะลดลง ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นทำธุรกิจกับพันธมิตรที่ยังคงสามารถเดินหน้าธุรกิจไปได้ ส่วนประเทศเวียดนามยังเดินหน้าตามแผนงาน และมองหาโอกาสลงทุนโรงงานเพิ่มเติมในอนาคตด้วย ซึ่งในแต่ละประเทศจะมีกฎหมายที่ไม่เหมือนกัน

 

ลั่นผู้นำตลาดในเอเชีย

 

ทั้งนี้ยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และขยายธุรกิจในทวีปแอฟริกา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้นำในตลาด สายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แข็งแกร่ง และการดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปแอฟริกา การวางกลยุทธ์ร่วมกัน การเป็นหุ้นส่วนการร่วมค้า และการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพในการเติบโต บริษัททุ่มเทความพยายามจะสร้างการเติบโตของธุรกิจนับจากปี 2562 เป็น 2 เท่าภายในปี 2568

 

อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีโอกาสในอนาคต เนื่องจากลักษณะของอุตสาหกรรมตลาด และแนวทางระยะยาวของบริษัทในการสร้างมูลค่า การเติบโต ซึ่งแม้บางช่วงที่เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และปัจจัยอื่นๆ รวมไปถึงการศึกษาเข้าควบรวม หรือซื้อกิจการ (M&A) ในภูมิภาคหลักที่ดำเนินธุรกิจ เข้ามากดดันบ้าง

 

*เคาะราคาเป้าหมาย 65 บ.

 

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง MEGA ว่า กำไรปกติ ไตรมาส 1/2566 ของ MEGA คิดเป็น 22% ของประมาณการเต็มปีของเราที่ 2.4 พันล้านบาท (ทรงตัว จากช่วงเดียวกันปีก่อน ) ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะต้องทำกำ ไรประมาณ 600 ล้านบาทต่อไตรมาสใน 3 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องท้าทายเมื่อเทียบกับกำไรรายไตรมาสเฉลี่ยที่ 560 ล้านบาท ในปี 2565 อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน MEGA มียามากกว่า 170 รายการที่อยู่ระหว่างการรอขึ้นทะเบียน

 

คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 65 บาท (DCF, 8.3% WACC, 3% LTG) คิดเป็น 23.6x ของค่า 2023E P/E, +0.5SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงถึ ง20% สะท้อนการสิ้นสุดของการซื้อจากการตื่นตระหนกในช่วงโควิด ปัจจุบันหุ้นมีการซื้อขายที่ 15.1x ของค่า 2023E P/E ต่ำ ที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง