ย้ำ 'ปลดพืชกระท่อม' พ้นบัญชียาเสพติด ปชช.ปลูกขายได้ 1,038 ผู้รับโทษ คดีค้างชั้นศาล ได้รับอานิสงส์
ข่าววันนี้ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงกรณีการปลดพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 สิงหาคม นี้ ว่า การปลดพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่ง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2564 จะเริ่มมีผลในวันที่ 24 สิงหาคมนี้แล้ว เป็นการปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้ประชาชนสามารถปลูกได้ขายได้
นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมได้ประชาสัมพันธ์ผ่านทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) เพื่อเร่ง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นั่นคือพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และ พ.ร.บ.พืชกระท่อม เพื่อมาควบคุมกำกับโดยตรง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ระบุจากนี้ไปการปลูกพืชกระท่อม การนำเข้า การส่งออกเชิงพาณิชย์ การขายในระบบอุตสาหกรรม จะต้องดูเรื่องปริมาณ จะต้องอยู่ในปริมาณที่กำหนดไว้ในกฎหมาย รวมถึงเรื่องคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ผู้ขอรับอนุญาต หรือผู้ปลูก ผู้ขาย ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกพืชกระท่อม ก็จะต้องมีการกำหนดให้ชัดเจนด้วยเช่นกัน จะมีการออกมาตรการมาคุ้มครองว่าจำนวนเท่าไหร่ที่บริโภคแล้วถือว่าเป็นอันตราย เพราะจะต้องจำกัดในการบริโภคด้วย ส่วนเรื่องการขาย น้ำต้มกระท่อม อาหารที่มีส่วนผสมของใบกระท่อมให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ไม่สามารถทำได้ หรือแม้แต่การขายใบกระท่อม น้ำต้มกระท่อม ในสถานศึกษา หอพัก หรือในวิธีอื่นๆ ที่ไม่สามารถควบคุมดูแลได้ เช่น การขายโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ตรงนี้ไม่สามารถดำเนินการได้
นายอนุชา กล่าวว่า มีผู้ที่รับโทษอยู่ในเรือนจำจำนวน 1,038 คน เมื่อพ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ก็จะได้รับการปล่อยตัว นอกเหนือจากนั้นผู้ที่ถูกจับกุม จำเลยในชั้นศาลต่างๆก็จะได้ดำเนินการ ตามแนวทางปฎิบัติของหน่วยงานนั้นๆในการปล่อยตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวิถีชีวิตของชุมชนที่จะได้รับประโยชน์จากตรงนี้