รีเซต

ITEL กำไรQ3เฉียด50ล. รุกชิงงานโค้งท้ายพันล.

ITEL กำไรQ3เฉียด50ล. รุกชิงงานโค้งท้ายพันล.
ทันหุ้น
11 พฤศจิกายน 2563 ( 09:20 )
103
ITEL กำไรQ3เฉียด50ล. รุกชิงงานโค้งท้ายพันล.

ทันหุ้น - สู้โควิด – ITEL ร่อนงบไตรมาส 3/2563 กวาดกำไร 49.96 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 475.78 ล้านบาท เร่งเครื่องโค้งท้ายลุยงานภาครัฐ-เอกชน มูลค่ากว่าพันล้านบาท อวดแบ็กล็อกแน่น 4,136 ล้านบาท พร้อมการันตีผลงานปีนี้ออกมาดีแน่นอน


นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/63 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 475.78 ล้านบาท ซึ่งลดลง 274.93 ล้านบาท หรือ 36.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 49.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


รายได้งานโครงข่ายพุ่ง


โดยในไตรมาส 3/2563 บริษัทมีรายได้จากงานบริการโครงข่ายอยู่ที่ 284.49 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้รวม เทียบกับไตรมาส 3/2562  ที่มีรายได้ 214.04 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33% ส่วนรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายอยู่ที่ 164.89 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35 ของรายได้รวม


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมอย่างมั่นใจว่า รายได้ของ ITEL ในปีนี้สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายแน่นอน โดยปัจจุบันมีมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 รวมประมาณ 4,136 ล้านบาท โดยโครงการปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อาทิเช่น งานโครงการอินเทอร์เน็ตพื้นที่ชายขอบ (USO Phase 1) และโครงการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) โครงการจัดหาบริการคู่สายวงจรเช่า (Link) สำหรับธนาคารกรุงไทย โครงการจ้างเหมาออกแบบ และติดตั้งเคเบิลใยแก้ว นำแสง ระยะทาง 3,600 กิโลเมตร ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้และที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดๆ ไป


ลุยโครงการใหม่


นอกจากนี้ยังเตรียมเสนองานโครงการใหม่กว่าพันล้านบาท ทั้งงานให้บริการโครงข่าย และงานติดตั้งโครงข่าย โดยมุ่งเน้นงานของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน หลังจากองค์กรต่างๆ มีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล จึงเป็นโอกาสที่ดีของ ITEL ในการใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้าไปนำเสนองานแก่หน่วยงานต่างๆ


สำหรับแนวโน้มโค้งสุดท้ายของปี 2563 นั้น บริษัทประเมินว่าการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตามบริษัทจะกระจายความเสี่ยงในการหาฐานลูกค้าที่หลากหลาย ไม่พึ่งพิงกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และโรคระบาด COVID-19 ตลอดจนศึกษาถึงเทคโนโลยี และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจในอนาคตต่อไป


แต่งตั้งเอ็มดีใหม่


พร้อมกันนี้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน และความคล่องตัวในการบริหารงานให้สอดคล้องกับการขยายการเติบโตของบริษัท โดยตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2563 ได้เลื่อนตำแหน่งของนายณัฐนัย อนันตรัมพร ขึ้นดำรงตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” ของบริษัท ซึ่งการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเท่านั้น อีกทั้งได้เสริมทัพผู้บริหารระดับสูง ที่มีความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีตลอดจนมีความเข้าใจในพฤติกรมและความต้องการของลูกค้า มาร่วมขับเคลื่อนองค์กร โดยได้แต่งตั้ง ดร.บัณฑิต รุ่งเจริญพร ดำรงตำแหน่ง "กรรมการผู้จัดการ" เพื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันรองรับการเติบโตในปี 2564

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง