จับตาพายุ “เอริก” จ่อเป็นเฮอริเคนกำลังแรง มุ่งถล่ม “เม็กซิโก” ปลายสัปดาห์

ศูนย์พยากรณ์อากาศ AccuWeather รายงานว่า พายุโซนร้อน “เอริก” (Erick) ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเมื่อวันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2025 ตามเวลาท้องถิ่น และคาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเฮอริเคนระดับรุนแรง ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโกภายในช่วงปลายสัปดาห์นี้

พยากรณ์อากาศระบุว่า พายุเอริกอาจกลายเป็นเฮอริเคนระดับ 3 ที่ทรงพลัง โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเคลื่อนผ่านใกล้เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง “อคาปูลโก” (Acapulco) ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้เกิดทั้งกระโชกแรง ไฟฟ้าดับ ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge)

ด้านนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ฤดูพายุปีนี้ในฝั่งแปซิฟิกตะวันออกถือว่าเริ่มต้นเร็วและรุนแรงกว่าค่าเฉลี่ย โดย "เอริก" เป็นพายุลูกที่ 5 ของปี และเร็วที่สุดที่มีการตั้งชื่อลูกที่ 5 นับตั้งแต่ปี 1956 ที่เคยเกิดขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม ขณะที่โดยเฉลี่ย พายุลูกที่ 5 มักจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม

ฤดูพายุปี 2025 นี้ ยังมีเฮอริเคนเกิดขึ้นแล้ว 1 ลูกก่อนหน้านี้ คือ “บาร์บารา” (Barbara) ซึ่งพัฒนาเป็นเฮอริเคนระดับ 1 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน แต่ไม่ขึ้นฝั่ง และไม่มีผลกระทบต่อประชากรหรือชายฝั่ง ขณะที่เอริกคาดว่าจะทวีกำลังแรงกว่าบาร์บาราและพัดเข้าใกล้พื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น

AccuWeather ประเมินว่า หากพายุเอริกยังคงทวีกำลังต่อเนื่องจนขึ้นฝั่งด้วยความรุนแรงระดับนี้ พื้นที่ตอนใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งและบริเวณภูเขา คลื่นลมแรงจากพายุจะทำให้ชายฝั่งทะเลมีคลื่นสูง น้ำทะเลซัดฝั่ง และกระแสน้ำเชี่ยว ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ที่อยู่ในเขตชายฝั่ง รวมถึงนักท่องเที่ยว

ฤดูพายุในปีนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะมีพายุโซนร้อนทั้งหมด 14–18 ลูก และจะมี 7–10 ลูกที่ทวีกำลังเป็นเฮอริเคน โดยคาดว่าพายุ 3–6 ลูกในจำนวนนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเม็กซิโกและอเมริกากลาง

ขณะเดียวกัน บริเวณอ่าวเม็กซิโกทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้และแคริบเบียนตะวันตกยังถูกจับตามองเพิ่มเติม แม้โอกาสในการพัฒนาตัวเป็นพายุจะค่อนข้างต่ำ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำอุ่นในทะเลไม่มากพอที่จะหล่อเลี้ยงให้ระบบพายุเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ส่วนในมหาสมุทรแอตแลนติก ยังคงเงียบสงบเนื่องจากมีอากาศแห้ง ฝุ่นจากทะเลทรายซาฮารา และลมแรงในระดับบน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการก่อตัวของพายุในระยะนี้

อย่างไรก็ตาม พายุเอริกกำลังกลายเป็นหนึ่งในพายุที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดที่สุดในซีกโลกเหนือช่วงกลางปี 2025 และสถานการณ์มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันถัดไป