พ.ร.ฏ.ยุบสภา ตีกลับ! รัฐบาลรักษาการไร้อำนาจ การเมืองไทยเดินต่ออย่างไร

เกมเปลี่ยนเมื่อ พ.ร.ฏ.ยุบสภาถูกตีกลับ
เหตุการณ์การเมืองไทยเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อสำนักองคมนตรีตีกลับร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เหตุผลมาจากการตีความทางกฎหมายที่ชัดเจนว่า “ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจกราบบังคมทูลยุบสภา” ความพยายามใช้กลยุทธ์ยุบสภาเพื่อรีบคืนอำนาจสู่ประชาชนจึงถูกปิดประตูลงทันที
รัฐบาลรักษาการหมดสิทธิ์เดินเกม
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลรักษาการต้องจำกัดบทบาทเฉพาะการประคับประคองสถานการณ์ โดยไม่สามารถใช้กลไกการยุบสภาเป็นเครื่องมือทางการเมืองได้อีก ต้องรอให้มีนายกรัฐมนตรีใหม่ที่มีอำนาจเต็ม หรือรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้รับเสียงข้างมากก่อน
ฝ่ายค้านขยับ ฝ่ายรัฐบาลถูกบีบ
การตีกลับครั้งนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยหมดทางเลือกในการใช้ “ยุบสภา” เป็นกลยุทธ์หนีทางตัน และมีแนวโน้มสูงที่จะต้องรับบทฝ่ายค้านเต็มตัว ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยมีพรรคประชาชนสนับสนุนในสภา แต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ การจัดสมการอำนาจเช่นนี้ทำให้ฝ่ายค้านมีพื้นที่และเครื่องมือทางการเมืองมากขึ้น
รัฐบาลเสียงข้างน้อย = เสถียรภาพเปราะบาง
รัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจถูกท้าทายได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะจากการลงมติในกฎหมายสำคัญ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านและภาคประชาชน เมื่อ “เสียงข้างน้อย” กลายเป็นฐานของอำนาจ บททดสอบคือการรักษาเสถียรภาพให้นานที่สุด
เศรษฐกิจภายใต้การเมืองไม่แน่นอน
ความไม่มั่นใจในเส้นทางการเมืองย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ นักลงทุนและภาคธุรกิจต่างจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่เมื่อใด หรือไทยจะได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพเพียงพอที่จะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ ยิ่งสถานการณ์โลกผันผวน การเมืองไร้เสถียรภาพก็ยิ่งซ้ำเติมความเสี่ยงของไทย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
