AOT ลุ้นปรับขึ้นค่า PSC โค้งแรกปีหน้าโดดเด่น

#AOT #ทันหุ้น – ผู้บริหาร AOT “ปวีณา จริยฐิติพงศ์” ยืนยันการปรับขึ้นค่า PSC มุ่งผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเท่านั้น พร้อมเสนอแผนปรับขึ้นทันทีและทยอยแบบขั้นบันได ด้านโบรกสแกนปัจจัยกดดันราคาหุ้นทั้งความไม่แน่นอนของการขึ้นค่า PSC และผลการเจรจาแก้ไขสัญญา Duty Free กับ King Power ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ Non-Aero พร้อมคาดผลงานจะกลับมาโตเด่น 1Q/2568-69 แนะ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 42 บาท

นางสาวปวีณา  จริยฐิติพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ยืนยันว่า การขอปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges : PSC) ในครั้งนี้เป็นการปรับเฉพาะในส่วนของผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ครอบคลุมผู้โดยสารต่างประเทศราว 70-75% ของผู้โดยสารทั้งหมด ขณะที่ผู้โดยสารคนไทยได้รับผลกระทบราว 25-30%  ซึ่งจะครอบคลุมเฉพาะผู้ที่ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ  ขณะที่ผู้โดยสารที่เดินทางในประเทศไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

                พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจงการเรียกเก็บค่าบริการภายในท่าอากาศแต่ละแห่ง เป็นการจัดเก็บจากหลากหลายหน่วยงาน อาทิ การเก็บ “ค่าบริการนำร่อง” ในอัตรา 300 บาทต่อครั้ง ของบริษัท วิทยุการบิน จำกัด ในสังกัดกระทรวงคมนาคม,  การเก็บค่าขึ้น–ลงอากาศยาน (Landing and Take-off Charges) ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย  (CAAT) ฯลฯ ซึ่งเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ทุกหน่วยงานก็อาจเสนอขอปรับขึ้นอัตราค่าบริการ เนื่องจากค่าบริการหลายรายการไม่ได้ปรับมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

  “รัฐบาลมีนโยบายลดค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งในการประชุมอาจพิจารณาชะลอ หรือปรับลดกรอบการขึ้นอัตราค่าบริการในท่าอากาศยานรายการอื่นๆ เพราะการปรับขึ้นค่า PSC เป็นการขอปรับขึ้นเฉพาะผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเท่านั้น ไม่ส่งผลต่อการเดินทางของผู้โดยสารในประเทศแต่อย่างโด”

  ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้อำนวยการใหญ่ AOT พร้อมที่จะนำเสนอข้อมูล - เหตุผลของการยื่นขอปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกในครั้งนี้  ซึ่งในการเสนอแผนขอปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกมีทั้งการปรับขึ้นทันที  และการทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันได  จึงมั่นใจว่ารัฐบาลจะเข้าใจ และพิจารณาอนุมัติแผนการปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกของ AOT ในรูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง

ราคาหุ้นรอความชัดเจน

นายดิษฐนพ  วัธนเวคิน นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน AOT มีปัจจัยกดดันกรอบการประเมินรายได้ - กำไร  และราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานสำคัญใน 2 ประเด็น คือ

1.การปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก หรือ ค่า PSC ภายในท่าอากาศยานของ  AOT ซึ่งตามกระแสข่าวมีทั้ง 1.การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในอัตรา 200 บาท และปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกในประเทศ 50 บาท 

2.การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ 200 บาท  และ 3.การปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในอัตราที่สูงกว่า 300 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ค่า PSC เร่งตัวขึ้นแตะที่กว่า 1,000 บาท

  ซึ่งทั้ง 3 แนวทางตามกระแสข่าว ส่งผลต่อแนวโน้มรายได้  กำไรขั้นต้นของ AOT ในอัตราที่แตกต่างกัน  เบื้องต้นประเมินแนวทางที่เหมาะสม และเอื้อต่อศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศ ในกรอบ 100 – 200 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ค่า PSC ปรับขึ้นมาอยู่ในกรอบ 830 – 930 บาท

                 ประเด็นที่ 2 คือ AOT ยังอยู่ระหว่างรอผลสรุปการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาสัญญาบริหารร้านค้าปลอดอากร (Duty Free) กับบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ซึ่งเบื้องต้นหากผลตอบแทนที่ AOT จะได้รับกลับไปใกล้เคียงผลตอบแทนตามสัญญาในปี 2562 จะถือเป็นปัจจัยกดดันรายได้ที่ไม่ใช่จากการบิน (Non-Aero) ซึ่งมีสัดส่วนราว 48% ของรายได้รวม 

  เบื้องต้นประมาณการรายได้รวมทั้งปี 2568/2569 (ต.ค.68 - ก.ย.69) ของ AOT ที่ราว 6.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 2.1% YoY แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจการบิน (Aero) ราว 52% ของรายได้รวม โดยประเมินรายได้ธุรกิจการบินลดลง 1% YoY และรายได้ที่ไม่ใช่จากการบิน (Non-Aero) ซึ่งมีสัดส่วนราว 48% ของรายได้รวม  โดยประเมินรายได้ที่ไม่ใช่จากการบินลดลง 6% YoY คงคำแนะนำ “ถือ” เนื่องจากราคาหุ้น AOT ณ ปัจจุบันปรับตัวขึ้นรับกระแสข่าวบวกทั้งการเจรจากับ King Power และการปรับขึ้นค่า PSC ไปแล้ว

แนะ “ซื้อเก็งกำไร”- เป้า 42 บาท

  บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์กำไรปกติ 4Q/2567-68 ที่ 3.4 พันล้านบาท ลดลง 21% YoYและลดลง 6% QoQ, -ตามปัจจัยฤดูกาล และรายได้ที่ชะลอตัวจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศ พร้อมคาดรายได้รวมที่ 1.5 หมื่นล้านบาทลดลง 3% QoQ, และลดลง 10% YoY แบ่งเป็น รายได้กิจการการบินคาดที่ 7.3 พันล้านบาทลดลง 2% QoO, และลดลง 5% YoY  และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินคาดที่ 7.8 พันล้านบาท ลดลง 1% QoQ,-และลดลง 14% YoY) ลดลง YoY  พร้อมกันนี้ คาดการณ์กำไรปกติ 1Q/2568-69 มีแนวโน้มเติบโตเด่น QoQ แต่ยังลดลง YoYกดดันจากการรับรู้ฐานของค่าใช้จ่ายรันเวย์ 3 และผลของการขอยกเลิก Duty Free ขาเข้าเกือบเต็มไตรมาส คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินราคาเหมาะสมที่ 42 บาท