รีเซต

"โรงแรม” หมดแรงไปต่อ รัฐรีดภาษีที่ดิน 100% กระทบเป็นลูกโซ่ ขาดสภาพคล่อง คนตกงานอื้อ

"โรงแรม” หมดแรงไปต่อ รัฐรีดภาษีที่ดิน 100% กระทบเป็นลูกโซ่ ขาดสภาพคล่อง คนตกงานอื้อ
มติชน
5 เมษายน 2565 ( 11:55 )
72

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง100% ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโรงแรมโดยรวมมากถึง 93.6% เสียงสะท้อนผู้ประกอบการหมดแรงที่จะไปต่อ เนื่องจากอัตราภาษีที่จัดเก็บสูงกว่ารายได้ในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 15.7% ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เผชิญกับภาวะขาดทุนยาวนาน ต้องแบกภาระหนี้ที่เกิดจากวิกฤตโควิดอีกอย่างน้อย 2 ปีจนกว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 

“ภาคธุรกิจโรงแรมและภาคบริการได้รับผลกระทบโดยตรงมากกว่าหลายธุรกิจอื่น หากรัฐบาลยังคิดอัตราการจ่ายภาษี100% ประเมินตามมูลค่าที่ดินและสินทรัพย์โดยไม่ได้นำการขาดรายได้ของธุรกิจโรงแรมมาร่วมพิจารณา จะทำให้ภาษีที่ดินกลายเป็นต้นทุนก้อนใหญ่ของธุรกิจโรงแรม เพราะโรงแรมเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสินทรัพย์สูง หากเทียบกับธุรกิจอื่น และยังมีภาระต้นทุนภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ยังต้องรับผิดชอบ อาทิ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม เป็นต้น”

 

นางมาริสากล่าวว่า สำหรับแนวทางผู้ประกอบการในการรับมือหรือปรับตัว เมื่อภาครัฐจัดเก็บภาษีที่ดิน100% ต้องมีการควบคุมและลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลง เช่น ลดการจ้างงาน ลดต้นทุนในการผลิต ลดค่าใชจ่ายอื่นๆที่ไม่จาเป็น พิจารณาปรับเพิ่มราคาสินค้า/บริการให้สอดรับกับต้นทุนที่อาจจะเพิ่มขึ้น ปรับแผนในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานณ์ที่จะเกิดขึ้น ชะลอการขยายธุรกิจการลงทุนในระยะสั้นไปก่อน อาจจะพิจารณาเลิกกิจการหรือปิดกิจการเป็นการชั่วคราวและขายให้ชาวต่างชาติ

 

ส่วนข้อเสนอแนวทางเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจ ขอให้ขยายการลดหย่อนภาษีไปอี1-2 ปีหรือจนกว่าเศรษฐกิจและธุรกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ปรับปรุงเงื่อนไขในการจัดเก็บภาษี โดยพิจารณาอ้างอิงจากประเภทธุรกิจ รวมถึงรายได้ของธุรกิจมาคำนวณในการจดั เก็บเพื่อความเป็นธรรม อยากให้จัดเก็บเป็นรูปแบบขั้น บันไดให้สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น ทยอยเก็บเพิ่มขึ้นปีละ 5-10% ออกนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรมที่อยู่ในวงจรธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัย ไม่ควรจัดเก็บหรือทำการปรับขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่มีความอ่อนไหว เกิดปัจจัยภายนอกไม่สามารถควบคุมได้ เช่น โรคระบาด สถานการณ์การเมืองในประเทศ สงครามทำให้ส่งผลต่อการท่องเที่ยวเดินทางโดยตรง

 

นางมาริสากล่าวว่า อย่างไรก็ตามสถานการณ์เศรษฐกิจ รายได้ยังฟื้นตัวช้ากลับมาไม่เหมือนเดิม และยังอยู่ในสถานการณ์ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่หากว่ากระทรวงการคลัง ยังคงยืนยันไม่ลดภาษีที่ดิน ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบในการประกอบธุรกิจ รายได้ไม่เพียงพอ ไม่มีความพร้อมที่จะชำระภาษี และส่งผลกระทบธุรกิจเป็นลูกโซ่ ขาดสภาพคล่อง มีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงานและต้นทุนอื่นๆอีกด้วย

 

ดังนั้นทางสมาคมโรงแรมไทย ขอให้รัฐบาลรับทราบถึงความเดือนร้อนและพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีสำหรับธุรกิจโรงแรมเป็นการเฉพาะ“อีกครั้ง”โดยขอผ่อนปรนและยืดเวลาการจัดเก็บออกไปอย่างน้อย 2 ปี เพื่อประเมินสถานการณ์ของไวรัสโควิดและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ผู้ระกอบการสามารถประคับประคองธุรกิจเกิดการจ้างงานและดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง