โรงแรม ชี้“เที่ยวไทยคนละครึ่ง”ระบบรวน

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)  เปิดเผยภายหลัง การประชุมร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาระบบของโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”  กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ว่า

สมาคมฯ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้ประชุมร่วมกับ ททท. ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหาทางออกของปัญหาระบบโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่กำลังสร้างความกังวลให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง  

โดยประเด็นแรกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ ปัญหาการแสดงราคาห้องพัก โดย ททท.แจ้งว่าจะเปิดระบบให้โรงแรมเข้าไปแก้ไขราคาขายห้องพักใหม่ในคืนวันที่ 10 และ 11 กรกฎาคมนี้

เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการอาจเข้าใจผิดว่าต้องใส่ราคาเป็นอัตราเริ่มต้นและสูงสุด แต่ระบบกลับแสดงราคาในระดับสูงสุด ทำให้โรงแรมถูกร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่าตั้งราคาสูงเกินจริง 

อย่างไรก็ตาม นายเทียนประสิทธิ์ตั้งข้อสังเกตถึงการกำหนด “วันธรรมดา” ของ ททท. ที่นับรวมวันศุกร์ด้วย ขณะที่โรงแรมส่วนใหญ่นับวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์เป็นวันหยุด ซึ่ง ททท.แจ้งว่าไม่สามารถแก้ไขระบบในส่วนนี้ได้

ดังนั้น ททท.แจ้งว่าจะเปิดให้ผู้ประกอบการเข้าไปแก้ไขได้ในวันที่10 ก.ค.  ซึ่งผู้ประกอบการยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเลยหรือไม่ และจะสิ้นสุดการแก้ไขเมื่อใด  

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นๆ ที่สร้างความกังวลให้ผู้ประกอบการ เช่น  

การผลักภาระให้โรงแรมทำความเข้าใจเงื่อนไขกับลูกค้า   ซึ่ง ททท.แจ้งว่า ระบบกำหนดแบ่งสิทธิ์เป็นเมืองหลัก 3 สิทธิ์/ห้องพัก และเมืองรอง 2 สิทธิ์ หากการจองไม่เข้าเงื่อนไข แต่โรงแรมรับจองไปแล้ว ททท.ขอให้ผู้ประกอบการช่วยทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวเอง  ซึ่งนายเทียนประสิทธิ์ มองว่า ควรเป็นหน้าที่ของ ททท. 

รวมถึง ข้อจำกัดการทำธุรกรรมผ่านธนาคารกรุงไทยเท่านั้น  ซึ่งเดิมขั้นตอนการทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้ระบุธนาคาร และ ปัญหาการลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเดียวกัน 

ซึ่งระบบของ ททท. ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเดียวกัน ทำให้โรงแรมที่มีร้านอาหารหรือสปาในอาคารเดียวกัน ไม่สามารถให้ลูกค้าที่ใช้สิทธิ์โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ใช้บริการร้านเหล่านี้ได้ 

ขณะเดียวกัน กระบวนการลงทะเบียนของผู้ประกอบการใช้เวลานานและขาดความชัดเจน เช่น หากผ่านการตรวจสอบของ ททท. แล้วต้องรอธนาคารกรุงไทยตรวจสอบอีกครั้ง 

และสถานะจะขึ้นว่า “รอพิจารณา” แต่หากไม่ผ่านและต้องแก้ไข กลับไม่มีรายละเอียดแจ้ง ทำให้ผู้ประกอบการกังวลว่าจะลงทะเบียนไม่ทันตามกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้