รีเซต

เผยตัวเลข! Facebook และ Instagram มีโพสต์กลั่นแกล้ง-ล่วงละเมิดบนแพลตฟอร์มเท่าไหร่?

เผยตัวเลข! Facebook และ Instagram มีโพสต์กลั่นแกล้ง-ล่วงละเมิดบนแพลตฟอร์มเท่าไหร่?
TNN ช่อง16
10 พฤศจิกายน 2564 ( 13:58 )
91

Meta ออกมาเปิดเผยเป็นครั้งแรกถึงสถิติโพสต์การกลั่นแกล้ง และการล่วงละเมิดบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram โดย Facebook พบเนื้อหาประเภทนี้ 0.14% - 0.15% ต่อการดูเนื้อหา 10,000 ครั้ง ส่วนของ Instagram อยู่ที่  0.05% - 0.06% ต่อการดูเนื้อหา 10,000 ครั้งเช่นกัน


สถิติใหม่นี้มีในรายงานความโปร่งใสไตรมาสล่าสุดของบริษัท แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทก็ได้ย้ำว่าค่าสถิติเหล่านี้มาจากเนื้อหาที่แพลตฟอร์มลบออกเองโดยไม่มีการรายงานจากผู้ใช้ แปลว่าสถิตินี้อาจเป็นเพียงส่วนย่อยของเนื้อหาทั้งหมด เนื่องจากปัญหาการกลั่นแกล้งและการล่วงละเมิดไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปสำหรับระบบอัตโนมัติที่จะตรวจจับได้

ภาพจาก reuters

 

ซึ่งก็ตรงกับที่อดีตพนักงาน Frances Haugen รวบรวมเอกสารภายในออกมาแฉเกี่ยวกับผลกระทบของ Instagram ต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น และ Facebook กระตุ้นให้เกิดความแตกแยก โดยเธอระบุว่าบริษัทเลือกผลกำไรมากกว่าความปลอดภัยของผู้ใช้ และยังสามารถจัดการกับคำพูดแสดงความเกลียดชังบนแพลตฟอร์มได้เพียงสามถึงห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าส่วนใหญ่แพลตฟอร์มจะตรวจไม่พบ

ภาพจาก reuters

 

ในขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญก็ชี้ว่าตัวเลขที่ดูน้อยนิดนี้ อาจจะเป็นเพราะระบบอัตโนมัติของ Facebook ไม่น่าเชื่อถือพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจหาเนื้อหาในภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ

ภาพจาก reuters

 

อย่างไรก็ตาม Facebook ก็ออกมาแย้งกลับเช่นกันว่า บริษัทให้ความสำคัญกับประสบการณ์เชิงบวกของผู้ใช้งานจริง ๆ โดยตอนนี้บริษัทก็กำลังทำเต็มที่ในการปรับปรุงระบบอัลกอริทึมเพื่อให้จัดการปัญหาเหล่านี้ได้ดีขึ้น


ส่วนปัญหาเรื่องการใช้คำพูดแสดงความเกลียดชัง หรือ hate speech ทางแพลตฟอร์ม Facebook รายงานว่ามีตัวเลขลดลงเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกันแล้ว จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ประมาณ 0.05% เหลือเพียง 0.03% ในไตรมาสนี้ ส่วน Instagram มียอดอยู่ที่ 0.02% ตัวเลขคิดจากยอด 10,000 ครั้งบนแพลตฟอร์ม


อย่างไรก็ตาม 0.03% และ 0.02% ก็ยังคงหมายถึงผู้คนนับล้าน ที่จะต้องเผชิญกับคำพูดแสดงความเกลียดชัง และปัญหาการกลั่นแกล้งในเนื้อหาแต่ละวัน ดังนั้นตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้น้อยเลย


ขอบคุณข้อมูลจาก

reuters

engadget

ขอบคุณภาพจาก

reuters

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง