โจ ไบเดน เตรียมถอดนโยบาย "แบนมุสลิม" ทันทีหลังได้รับตำแหน่ง
โจ ไบเดน เตรียมถอดนโยบาย "แบนมุสลิม" ทันทีหลังได้รับตำแหน่ง พร้อมแก้นโยบายของ "ทรัมป์" นับสิบ
นายโจ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีหสรัฐในวันที่ 20 ม.ค.นี้ และเขากำลังจะสั่งเปลี่ยนกฎหมายเดิมของทรัมป์นับสิบข้อ ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงในสัญญาปารีส มาตราการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เพื่อลดภาวะโลกร้อน, การยกเลิกกฎหมายบางประเทศที่ถูกแบนเนื่องจากมีประชากร "มุสลิม" เป็นส่วนใหญ่, การขยายเวลาชำระหนี้สินจากการศึกษาของรัฐบาล (federal student loan), ระงับการยึดอสังหาริมทรัพย์ชั่วคราว, บังคับการใส่แมสก์เมื่อเดินทางระหว่างรัฐ รวมทั้งเมื่ออยู่สถานที่ราชการ เป็นต้น เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนของนายโจ ไบเดนเองว่าเขามีทัศนคติที่แตกต่างจากทรัมป์โดยสิ้นเชิง
นายไบเดน จะทำการยกเลิกข้อบังคับที่ห้ามพลเมืองจาก 6 ประเทศมุสลิม ได้แก่ อิหร่าน ลิเบีย ซีเรีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน และในช่วง 10 วันแรกในการทำงานจะเป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของคนในประเทศรวมถึงแก้ไขภาพลักษณ์ของอเมริกาในระดับสากล
เขาเคยให้สัญญาไว้กับประชาชนชาวอเมริกันว่าเขาจะขจัดความเกลียดชังออกไปจากสังคมเขาจะรับใช้ประชาชนทุกคนรวมถึงชาวมุสลิมด้วย "ชุมชนมุสลิมเป็นกลุ่มแรกที่รู้สึกว่าโดนัลด์ทรัมป์ทำร้ายชุมชนผิวสีในประเทศนี้ด้วยคำสั่งแบนชาวมุสลิม การต่อสู้ครั้งนั้นเป็นการเปิดเขื่อนในสิ่งที่กดดันและดูหมิ่นมาตลอดเกือบสี่ปี" ไบเดนกล่าว
แผนการช่วง 100 วันแรกคือนายไบเดนจะเปิดให้ผู้อพยพจำนวนหลายล้านในสหรัฐฯ เข้ามาขึ้นสิทธิเป็นพลเมืองอเมริกันได้อีกด้วย ด้านการแก้ไขปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เขาประกาศงบเยียวยาเป็นเงินกว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 57 ล้านล้านบาท เพื่อที่จะแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเขาทุ่มเทและไม่รีรอที่จะแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น
ที่มา edition.cnn.com