รีเซต

สวีเดนเสนอสหภาพยุโรป แบนเงินคริปโตที่ใช้กระบวนการ Poof of Work

สวีเดนเสนอสหภาพยุโรป แบนเงินคริปโตที่ใช้กระบวนการ Poof of Work
TNN ช่อง16
27 พฤศจิกายน 2564 ( 15:07 )
100
สวีเดนเสนอสหภาพยุโรป แบนเงินคริปโตที่ใช้กระบวนการ Poof of Work

เรื่องที่ฮิตติดเทรนด์ที่สุดในช่วงเวลานี้ คงหนีไม้พ้นเงินคริปโตที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งใช้แทนการแลกเปลี่ยนสินค้าแทนเงินสดไปจนถึงไอเทมในเกม แต่ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงมากไม่แพ้กันคือการใช้พลังงานของเงินคริปโตบางชนิด ที่หลายคนมองว่าเป็นกำลังเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมของโลกเรา

ที่มาของภาพ Euronews

 


Bitcoin และ Ethereum คริปโตเจ้าปัญหาจาก Proof of Work


ปัจจุบันเงินคริปโตที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือ Bitcoin และ Ethereum โดยเงินทั้งสองสกุลจัดเป็นเงินคริปโตรุ่นแรก ๆ ที่มีมูลค่าสูงดึงดูดใจเหล่านักเทรดคริปโต แต่ก็เป็นเงินที่นับว่ามีประเด็นข้อครหาเยอะที่สุดด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุจากการทำเหมืองคริปโตนั่นเอง


การที่จะได้ Bitcoin และ Ethereum มาครอบครอง ต้องอาศัยการแก้สมการ (เรียกเล่น ๆ ว่าการขุดเหมือง) ด้วยอุปกรณ์ที่มีกำลังการประมวลผลสูง เช่น การ์ดจอคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องประมวลผล ASIC ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลือง อย่างที่มีข่าวในบางประเทศพบการเปิดโรงงานขุดเหมืองผิดกฎหมาย ขโมยไฟฟ้าจากทางการมาใช้จนกระทบต่อผู้อยู่อาศัยในละแวกเดียวกัน





Proof of Stake คือหนทางแก้ปัญหาด้านพลังงาน


ลักษณะแก้สมการเพื่อให้ได้ Bitcoin และ Ethereum นั้นเรียกว่า Proof of Work (PoW) ซึ่งเป็นกระบวนการในการครอบครองเงินคริปโตยุคแรก ๆ เมื่อแก้สมการเสร็จก็จะได้รับเงินคริปโตเป็นรางวัล ส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และตามมาด้วยการทำเหมืองขุดคริปโตกันอย่างไม่รู้จบ และสุดท้ายพลังงานไฟฟ้าก็ถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลืองนั่นเอง


นี่จึงเป็นเหตุให้เกิดแนวคิดของเงินคริปโตแบบ Proof of Stake (PoS) ซึ่งเป็นอัลกอริธึมใหม่ในการครอบครองเงินคริปโต กระบวนการนั้นเปลี่ยนจากการใช้อุปกรณ์ขุดเหมือง มาเป็นการวางเงินคริปโตที่ตนเองมีอยู่แล้วลงในระบบ (เรียกว่าการ Stake เหรียญ) ใครที่วางเงินไว้ในระบบมากจะได้รับสิทธิ์เป็นผู้ตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมของบุคคลอื่น ๆ ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์นี้จะได้รับค่าตอบแทนเป็น "ค่าธรรมเนียม" จากผู้ที่เข้ามาทำธุรกรรมด้วย

ที่มาของภาพ Blockgeeks

 


ดังนั้น จะเห็นได้ว่า PoS ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ขุดเหมืองจำนวนมากเพื่อแข่งกันให้ได้เหรียญมาครอบครอง จึงลดปัญหาด้านการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการรวมอำนาจไว้กับบุคคลกลุ่มเดียว ในกรณีของ PoW นักขุดเหมืองจะได้รับเงินคริปโตง่ายขึ้นหากพวกเขามีอุปกรณ์ขุดเหมืองที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อพวกเขาครอบครองเงินคริปโตเป็นจำนวนมากก็มีสิทธิ์ในการปั่นราคาเงินในตลาดได้ แต่ PoS จะมีการกำหนดเพดานจำนวนครั้งในการครอบครองสิทธิ์ตรวจสอบธุรกรรม จึงทำให้เงินไม่ตกไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงผู้เดียว


ปัจจุบันเงินคริปโตส่วนใหญ่ปรับมาใช้ PoS กันหมดแล้ว รวมถึง Ethereum เองก็มีแผนจะเปลี่ยนมาใช้กระบวนการของ PoS ในเร็ว ๆ นี้ เพราะฉะนั้น เทรนด์ใหม่ของเงินคริปโตในอนาคตก็ควรจะเป็น PoS และเงินแบบ PoW ที่ใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเสียที

ที่มาของภาพ Quartz

 



สวีเดนเล็งเห็นปัญหานี้ พร้อมเสนอสหภาพยุโรปแบนการขุดเหมืองคริปโตที่เป็น Proof of Work


อีริก เธอดีน (Erik Thedéen) ผู้อำนวยการหน่วยงานกำกับดูแลการเงินแห่งสวีเดน และ เบียน ไรซิงเจอร์ (Björn Risinger) ผู้อำนวยการหน่วยงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมของสวีเดน ร่วมกันร่างจดหมายเปิดผนึกเสนอไปยังสหภาพยุโรปให้แบนการขุดเหมืองคริปโตที่ใช้กระบวนการ PoW เนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ


ข้อความในจดหมายได้อ้างอิงงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งได้ศึกษาการใช้พลังงานของเหมืองคริปโตในประเทศต่าง ๆ แล้วพบว่าการขุดเหมืองคริปโตทั้ง Bitcoin และ Ethereum ใช้พลังงานรวมกันมากกว่าที่ใช้ในประเทศสวีเดนถึง 2 เท่า อีกทั้งยังเป็นเร่งให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการผลิตกระแสไฟฟ้านั้นต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงจึงมีการปล่อยแก๊สเรือนกระจกเพิ่มขึ้น ประกอบกับอุปกรณ์ในการขุดเหมืองที่เสียหายยังถูกท้งให้เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ปริมาณหลายกิโลตันต่อปี

ที่มาของภาพ Coincu

 


สองผู้อำนวยการจึงเรียกร้องให้ทางสหภาพยุโรปแบนการขุดเหมืองทั้งหมดที่เป็น PoW เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเปลี่ยนไปสนใจเงินคริปโตที่ใช้กระบวนการ PoS จะเห็นได้ว่าจุดนี้ทางสวีเดนไม่ได้ปฏิเสธการใช้เงินคริปโต หากแต่ต้องการปรับเปลี่ยนไปใช้สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อโลกน้อยกว่า รวมถึงเห็นสมควรให้มีการแบนบริษัทที่สนับสนุนเงินคริปโตแบบ PoW ที่โฆษณาเรื่องการทำธุรกิจแบบยั่งยืนอีกด้วย


สำหรับตัวผู้เขียนมองว่าเงินคริปโตแบบ PoS นั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าดังที่กล่าวไว้ข้างตนจริง ด้วยเหตุที่มันใช้พลังงานน้อยกว่าเงินแบบ PoW ถึงร้อยละ 99.5 หากรัฐบาลในแต่ละประเทศต่างร่วมมือกันผลักดันและให้ความสนใจกับเงินคริปโต PoS มากขึ้น สักระยะหนึ่งมันก็จะได้รับความนิยมและกดดันให้เงิน PoW เกิดการเปลี่ยนแปลงไปใช้กระบวนการแบบ PoS ได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประโยชน์ต่อโลกของเรานั่นเอง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Fi.se

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง