รีเซต

เทรนด์การดูแลสุขภาพใจ ในยุค Digital Detox

เทรนด์การดูแลสุขภาพใจ ในยุค Digital Detox
EntertainmentReport1
1 กรกฎาคม 2568 ( 23:56 )
3

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกแง่มุมของชีวิต การดูแลจิตใจจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และ "Digital Detox" หรือการพักจากการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย ได้กลายเป็นเทรนด์สำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับชีวิตมากขึ้นสำหรับใครหลายคนในปัจจุบัน

 

 

Digital Detox คืออะไรและสำคัญต่อสุขภาพจิตอย่างไร?

Digital Detox คือ การพาตัวเองออกจากโลกออนไลน์ชั่วคราว หรือจำกัดการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลและโซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันอย่างตั้งใจ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้หยุดพักจากข้อมูลข่าวสารที่ถาโถม การแจ้งเตือนที่รบกวน และความกดดันทางสังคมที่มักจะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อตลอดเวลา

 

ประโยชน์ต่อสุขภาพจิตจากการทำ Digital Detox:

  • ลดความเครียดและความวิตกกังวล: การรับข่าวสารเชิงลบหรือการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นบนโซเชียลมีเดียเป็นสาเหตุหลักของความเครียด การลดเวลาหน้าจอช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
  • เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพ: เมื่อปราศจากสิ่งรบกวนจากโทรศัพท์ จิตใจจะสามารถจดจ่อกับกิจกรรมตรงหน้าได้ดีขึ้น ทำให้มีสมาธิและทำงานต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาคุณภาพการนอนหลับ: แสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัลส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับ การลดการใช้หน้าจอก่อนนอนช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นและหลับได้สนิทมากขึ้น
  • เสริมสร้างความสัมพันธ์ในชีวิตจริง: การลดเวลาบนโลกออนไลน์ช่วยให้เรามีเวลาและใส่ใจกับคนรอบข้าง เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือคนรักมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตจริงแน่นแฟ้นขึ้น
  • เพิ่มความตระหนักรู้และสติ: เมื่อหยุดพักจากการเสพข้อมูล เราจะกลับมาอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น สังเกตสิ่งรอบตัวและรับรู้ความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น

 

 

เทรนด์และเทคนิคการดูแลจิตใจในยุค Digital Detox

  1. การกำหนดขอบเขตและเวลาปลอดดิจิทัล:
    • "Digital-Free Zones": กำหนดพื้นที่ในบ้านที่ไม่ใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น โต๊ะอาหาร ห้องนอน เพื่อส่งเสริมการพูดคุยและพักผ่อนอย่างแท้จริง
    • "Digital-Free Hours": กำหนดช่วงเวลาห้ามใช้อุปกรณ์ดิจิทัล เช่น งดใช้มือถือก่อนนอน 1 ชั่วโมง หรือระหว่างมื้ออาหาร
    • "Digital-Free Days": หากเป็นไปได้ ลองกำหนดวันหยุดสุดสัปดาห์ 1 วันที่ไม่แตะต้องอุปกรณ์ดิจิทัลเลย
    • การจัดการการแจ้งเตือน: ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นทั้งหมด หรือตั้งค่าโหมด "ห้ามรบกวน" (Do Not Disturb) ในช่วงเวลาทำงานหรือพักผ่อน
  2. การหากิจกรรมทดแทนและเชื่อมโยงกับโลกจริง:
    • กิจกรรมกลางแจ้งและธรรมชาติ: ออกกำลังกาย, เดินเล่นในสวนสาธารณะ, ปั่นจักรยาน, เดินป่า หรือทำกิจกรรมที่ได้สัมผัสธรรมชาติ ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
    • งานอดิเรกและงานฝีมือ: การวาดภาพ, ถักไหมพรม, ทำอาหาร, เล่นดนตรี, ทำสวน, หรืออ่านหนังสือเล่มจริง ช่วยให้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งและลดความฟุ้งซ่าน
    • การเชื่อมโยงทางสังคม: ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูงด้วยการสนทนาแบบเห็นหน้า แทนที่จะสื่อสารผ่านหน้าจอ
    • การทำสมาธิและฝึกสติ (Mindfulness): ฝึกการหายใจ การนั่งสมาธิ หรือโยคะ ช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิ และรับรู้ถึงปัจจุบันมากขึ้น
  3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานอย่างมีสติ:
    • Mindful Social Media Use: เลือกคัดกรองเนื้อหาและแหล่งข้อมูลที่ดี หลีกเลี่ยงการเสพข่าวลบหรือการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
    • ไม่เริ่มต้นและจบวันด้วยการเช็กโทรศัพท์: แทนที่จะเช็กโซเชียลมีเดียทันทีที่ตื่น หรือก่อนนอน ลองเปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือ ทำสมาธิ หรือพูดคุยกับคนในครอบครัว
    • ใช้แอปพลิเคชันช่วยควบคุม: มีแอปพลิเคชันที่ช่วยติดตามและจำกัดเวลาการใช้หน้าจอ หรือบล็อกแอปฯ บางตัวได้
  4. แนวโน้มการท่องเที่ยวและการพักผ่อนแบบ Digital Detox:
    • โรงแรม รีสอร์ต หรือสถานปฏิบัติธรรมหลายแห่งเริ่มนำเสนอโปรแกรม "Digital Detox Retreat" ที่ผู้เข้าร่วมจะต้องฝากอุปกรณ์ดิจิทัลไว้ชั่วคราว เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และเชื่อมโยงกับตัวเองและธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

 

การทำ Digital Detox ไม่ได้หมายถึงการตัดขาดจากโลกดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะสร้างสมดุลในการใช้งานอย่างมีสติ เพื่อให้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเรา แทนที่จะกลายเป็นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพจิตและกายครับ

Photo Credit : AI Generated

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง