เปิดปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ การเลือกตั้งปธน. และมุมมองตัวเลขการค้าจีน
#หุ้นต่างประเทศ #ทันหุ้น - Global Market Update เปิดปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ และประเด็นใหม่การเลือกตั้งสหรัฐ รวมทั้งมุมมองตัวเลขการค้าจีน โดย บล.ธนชาต
หุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดมี
- กลุ่มสินค้าบริการที่จำเป็นต่อชีวิต ซึ่งมีความ Defensive สูง เป็นที่ต้องการของตลาดในยามนี้
- กลุ่มสาธารณูปโภค และหุ้นพลังงานสะอาด ซึ่งมีความอ่อนไหวกับแนวโน้มดอกเบี้ย
- หุ้นรายตัว Shopify ซึ่งเป็น Ecommerce Platform สำหรับธุรกิจ SME ปรับขึ้นแรงเกือบ +18% จากรายได้และกำไรโตสูงกว่าคาด สวนทางบริษัทอื่นๆที่ทำธุรกิจคล้ายกัน
- ETF ของตลาดหุ้นอื่นๆ ที่ไม่ใช่สหรัฐฯ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากภาพข้างต้น เหตุผลหลักที่เป็นตัวกดดันตลาด น่าจะไม่ใช่เรื่องการประมูลพันธบัตร แต่เป็น Sentiment ของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่อ่อนแอลง จาก 2 สาเหตุหลัก
1. ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เปราะบางลง โดย สินเชื่อผู้บริโภคที่เพิ่งประกาศเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดและเดือนก่อนพอสมควร สะท้อนภาพที่ธนาคารพาณิยช์มีแนวโน้มจะระมัดระวังมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ
2. พฤติกรรมของนักลงทุนที่มักชะลอดูความชัดเจนของทิศทางนโยบาย ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้าการเลือกตั้ง (ส.ค. - ต.ค.)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีในชั่วโมงแรกๆ จากนั้นก็ลดช่วงบวกลงอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นติดลบในท้ายตลาด
หุ้นที่อ่อนแอกว่าตลาดมี
- หุ้นกลุ่มเทค โดยเฉพาะ Semiconductor ที่ปรับลงแรงทั่วหน้า จากแนวโน้มผลประกอบการที่ชะลอลง, และแรงขายทำกำไรหลังราคาปรับขึ้นแรงในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา
- กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะ หุ้น TSLA ซึ่งเจ้าของมีท่าทีสนับสนุนทรัมป์ อาจกดดันความนิยมของรถที่วางขายในยุโรป และประเทศอื่นๆ
- กลุ่มการท่องเที่ยว-วัสดุตกแต่งบ้าน ที่ถูกกดดันจากงบ ออกมาไม่ดี สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอลง
ด้านการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีประเด็นใหม่ที่น่าสนใจเข้ามา คือ แฮร์ริสตัดสินใจเลือก Walz เป็นคู่หู ในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์เคยอยู่สอนหนังสือในเมืองจีน ไปกลับจีนมากกว่า 30 ครั้ง, สนับสนุนดาไลลามะ และสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
อย่างไรก็ดี เขาก็ปฏิเสธที่จะเป็นปรปักษ์ต่อจีนในทุกเรื่อง โดยต้องการร่วมมือกับจีนในบางด้านที่เป็นไปได้, มีจุดเด่นด้านฐานเสียงของชนชั้นกลางถึงรากหญ้า ที่ต้องการความเท่าเทียมด้านโอกาสทางการศึกษา
เรื่องมุมมองต่อตัวเลขการค้าจีนที่เพิ่งประกาศ
- ฝั่งการส่งออก ออกมาต่ำคาด สะท้อนภาพ Global Demand ที่แผ่วลงตามทิศทางเศรษฐกิจ, รัฐบาลจีนจะต้องมองหาปัจจัยอื่นมาช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ
- ฝั่งการนำเข้า ดีกว่าคาดพอสมควร สะท้อนภาพความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มค่อยๆดีขึ้น หลังรัฐบาลออกท่าทีสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่ม, เห็นการนำเข้าสินค้าอิเลคทรอนิกส์ เพื่อเตรียมรับมือกับความขัดแย้งทางการค้าระลอกใหม่