‘ธนาธร’ ประกาศส่งนายกฯ อบจ. ไม่สนอิทธิพล ‘บ้านใหญ่’
‘ธนาธร’ ประกาศส่งนายกฯ อบจ. ไม่สนอิทธิพล ‘บ้านใหญ่’ ชี้ หากรัฐบาลจัดเลือกตั้ง 20 ธ.ค. หมายความว่ากลัว ‘คณะก้าวหน้า’
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ที่อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้เป็นการเปิดตัวผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ใน 32 จังหวัด อยากให้พี่น้องประชาชนให้กำลังใจพวกเรา และช่วยให้พวกเราเข้าไปบริหาร อบจ.ต่างๆ เหล่านี้ พวกเราสัญญาว่าจะนำความไว้วางใจที่มอบให้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดและเป็นพื้นที่ของกิจการครอบนายธนาธรด้วย จะส่งผู้สมัครหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตอนนี้เราคัดเลือกได้ 32 จังหวัดแล้ว เหลืออีก 7 จังหวัดกำลังอยู่ในการพิจารณา ซึ่งจังหวัดอื่นๆ เราก็ยังไม่ได้ปิดรับสมัคร ตนจึงขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนประชาชนที่รักประชาธิปไตย และต้องการเห็นท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงให้เข้ามาร่วมทางกับพวกเราโดยลงสมัครนายก อบจ. ในนามของคณะก้าวหน้า ท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าไม่มีใครกล้าลงมือทำ แน่นอนที่สุด จ.สมุทรปราการ ก็เป็นพื้นที่เป้าหมายของเรา
เมื่อถามว่า แนวทางที่จะทำให้คณะก้าวหน้าได้คะแนนในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้คืออะไร นายธนาธร กล่าวว่า พี่น้องประชาชนคงเห็นแล้วว่าการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านมาถูกยึดโยงกับบ้านใหญ่ หรือตระกูลการเมือง โดยเฉพาะในระดับ อบจ. หลายที่ก็มีการใช้อำนาจหน้าที่ไปโดยมิชอบ นำภาษีประชาชนไปเป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัว ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงเพื่อยุติระบบราชการรวมศูนย์ ยุติระบบบ้านใหญ่ ระบบยุติระบบอิทธิพล และการซื้อเสียง การเลือกตั้งคือการลงทุนที่ดีที่สุดเป็นการลงทุนที่ต้นทุนต่ำที่สุดให้กับลูกหลานของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวมีชื่อของ น.ส. นันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องชื่อดัง และอดีตภรรยานายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้า จ.สมุทรปราการ ลงสมัคร สมาชิก อบจ.สมุทรปราการ ในนามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนกับคณะก้าวหน้าหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่สับสน เพราะชื่อของพวกเราคือ คณะก้าวหน้าที่ใช้ทั่วประเทศ เมื่อถามต่อว่า การเสนอชื่อ น.ส.นันทิดา ถือเป็นการประกาศว่าเป็นพื้นที่บ้านใหญ่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า หลายจังหวัดเป็นการเมืองผูกขาดโดยบ้านใหญ่ของแต่ละจังหวัด ถือเป็นการครอบงำทางการเมือง ประชาชนคงเห็นด้วยตัวเองแล้ว กว่า 10 ปีที่ผ่านมาในท้องถิ่นมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง หากท่านไม่พอใจกับการเมืองท้องถิ่นปัจจุบันและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงขอให้กล้าที่จะเปลี่ยนในการเลือกตั้งครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังเชื่อหรือไม่ว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นภายในปี 2563 นายธนาธร กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือวันเลือกตั้งท้องถิ่นว่าจะเป็นวันที่ 13 ธันวาคมหรือวันที่ 20 ธันวาคม เพราะการเลือกวันใดวันหนึ่งจะมีผลต่อการเมืองอย่างมหาศาล ถ้าหากมีการจัดเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม จะมีผลให้ประชาชนต้องกลับภูมิลำเนาถึง 3 ครั้ง เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวในวันรัฐธรรมนูญ และเทศกาลปีใหม่ จึงไม่สมเหตุสมผลและอาจทำให้ประชาชนไปเลือกตั้งน้อยลง ทั้งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้รัฐบาลต้องลดภาระในการเดินทางของประชาชน ดังนั้นคณะก้าวหน้าจึงเห็นว่าการเลือกตั้งในวันที่ 13 ธันวาคม มีความเหมาะสมกว่า หากในรัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม ก็เป็นความชัดเจนว่า กลัวความพร้อมของคณะก้าวหน้า
เมื่อถามว่า มีความมั่นใจการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดนี้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า การจัดเลือกตั้งครั้งนี้ กกต. มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เพราะหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือน มีนาคม 2562 ก็มีประชาชนร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต. ชุดนี้กว่า 1 ล้านคนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยมีองค์กรไหน มีวิกฤตศรัทธาขนาดนี้มาก่อน ภาระหน้าที่ของ กกต. ง่ายนิดเดียวคือ การจัดเลือกตั้งอย่างโปร่งใส และยุติธรรม ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึง กกต. ว่าจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ยึดมั่นในความถูกต้อง ถ้าทำหน้าที่ใน่ส่วนนี้ไม่ได้ และประชาชนเคลือบแคลงสงสัยหรือประชาชนไม่มีศรัทธาให้แก่องค์กรอิสระก็เท่ากับว่า ท่านกำลังพาสังคมไทยไปสู่ทางตัน
ข้อมูล : มติชน