AH ออเดอร์ทะลัก Q 3อู้ฟู่ ย้ำชัดค่าแรงไม่กระทบจิ๊บ
- AH ลั่น Q3/2565 ผลงานอลังการ รับโมเดลใหม่ หนุนออเดอร์กระฉูด พร้อมคอนเฟิร์มปีนี้โต 30% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แจงค่าแรงใหม่กระทบน้อย ระบุปรับใช้ระบบออโต้แล้วเป็นส่วนใหญ่
นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขาย เปิดเผย บริษัทคาดทิศทางผลงานในไตรมาส 3/2565 น่าจะเติบโตอย่างชัดเจนจากช่วงไตรมาส 2/2565 ผลมาจากผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ต่างๆ มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจได้คำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
“ปกติแล้วไฮซีซันของ AH นั้นจะอยู่ช่วงไตรมาส 1 ของทุกปี จากนั้นในไตรมาส 2 ของทุกปีจะเป็นจุดต่ำสุด และไตรมาส 3-4 ก็จะทรงตัว แต่ปีนี้ภาพของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยไตรมาส 3/2565 กลับดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะได้ออเดอร์ชิ้นส่วนยานยต์จากค่ายรถต่างๆ ที่เปิดตัวรถรุ่นใหม่มากขึ้น และมองว่าแนวโน้มผลงานปี 2566 ของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 เพราะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจในแอฟริกาและอาเจนตินาเข้ามาเสริม ”
ปักธงรายได้โต30%
อย่างไรก็ดี ในปี 2565 บริษัทเชื่อรายได้จะเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโตประมาณ 30% จากปีก่อนที่ 2.09 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบรรยากาศของอุตสาหกรรมยานยนต์ปรับตัวดีขึ้น ทำให่ให้ออเดอร์ของธุรกิจขยายตัว ประกอบกับมีคำสั่งซื้อในส่วนรถยนต์ข้บเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) เข้ามาช่วยสนับสนุนธุรกิจอีกทางหนึ่ง
ส่วนในแง่ของบลงทุนปี 2565 ช่วงที่ผ่านมาทาง AH ได้วางไว้ประทาณ 500-600 ล้านบาท รองรับปรุงเครื่องจักรและโรงงาน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพและสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้สามารถเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
ค่าแรงใหม่กระทบจิ๊บ
นายเย็บ กล่าวเสริมว่า สำหรับประเด็นเกี่ยวกับการประชุมของคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 21 ครั้งที่ 8/2565 เพื่อพิจารณากลั่นกรองข้อเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ปี2565 ร่วมกับไตรภาคี ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และหน่วยงานภาครัฐล่าสุดนั้นได้เห็นชอบปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2565 ทั้ง 77 จังหวัด จำนวน 9 อัตรา โดยกำหนดอัตราเริ่มต้นตั้งแต่วันละ 328 บาท ถึง 354 บาท ซึ่งจะเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ทางบริษัทมองประเด็นเกี่ยวกับการปรับค่าแรงนั่วน่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนไลน์การผลิตแบบอัตโนมัติ (ออโต้) อย่างต่อเนื่อง เพื่อชดเชยแรงงานคนเรียบร้อยและเป็นส่วนใหญ่แล้ว
กำไรเด่นอัพเป้า30บ.
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ"ซื้อ" หุ้น AH โดยปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 30.00 บาท จากเดิมที่วางไว้28.00 บาท หลังแนวโน้มธุรกิจปี 2565 ผู้บริหารคงเป้าหมายจะเติบโตสูง30% แรงหนุนได้รับคำสั่งซื้อใหม่ซึ่ง เป็น Global Model การเปิดเพิ่มสาขาโชว์รูมขายรถยนต์เข้ามาช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบรับพื้นฐานและการเติบโตที่ดีขึ่น ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการยอดขาย และกำไรปกติขึ้น 14%, 19% ตามลำดับ โดยมองว่าประเมินยอดขาย2.62 หมื่นล้านบาท โต 28% และ มีกำไรปกติอยู่ที่1,239 ล้านบาท โต 57% จากปีก่อน