AH มีดีลออเดอร์ใหม่ รับโชคยอดรถยนต์ฟื้น

ทันหุ้น –กลุ่มยานยนต์ รับอานิสงส์ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศฟื้น ผู้บริหาร AH เร่งเจรจารับออเดอร์ใหม่ พร้อมตั้งเป้าปีหน้ายอดขายเติบโต 10-15% ชี้ตลาดมาเลเซียเติบโตดี ประเมินผลงานไตรมาส 4/2563 ทำได้ไม่ต่ำกว่าไตรมาส 3/2563 ฟากโบรกมอง ผลประกอบการที่พลิก Turnaround เร็วกว่าที่คาดไว้ และจะเติบโตโดดเด่นในปี 2564 ปรับราคาเป้าหมายเป็น 26.50 บาท

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์เดือนตุลาคมอยู่ที่ 71,372 คัน ลดลง16.57% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดการผลิตรถยนต์เดือนตุลาคม 2563 อยู่ที่ 149,360 คัน ลดลง 2.24% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน

โดยยอดผลิตในประเทศ (ปีนี้มีสัดส่วน 55.01% ของยอดผลิตทั้งหมด) เพิ่มขึ้น 18.81% จากเดือนเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากมีการล็อกดาวน์ในเดือนเมษายน ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,112,426 คัน ลดลง 35.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุถึงกลุ่มยานยนต์ว่า คาดยอดการผลิตรถยนต์ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 จะอยู่ที่ระดับ 1.49-1.5 แสนคันได้แรงขับเคลื่อนจากการผลิตเพื่อในประเทศ ก่อนยอดการผลิตรถยนต์จะลดลงในช่วงเดือนธันวาคมเนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว ทำให้ภาพรวมคาดยอดการผลิตรถยนต์ไตรมาส 4/2563 จะสูงกว่าไตรมาส 3/2563 ที่ผลิตได้ 3.57 แสนคัน

*AH เจรจาออเดอร์ใหม่

นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เปิดเผยว่าภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 4/2563 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 3/2563 สอดคล้องกับอุตสากรรมที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีการส่งมอบออเดอร์ได้อย่างต่อเนื่องขณะที่โรงงานกลับมาผลิตปกติแล้ว

ส่วนปี 2564 คาดว่ายอดขายจะเติบโตได้ 10-15% โดยปัจจุบันอยุ่ระหว่างการเจรจารับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ใหม่เพิ่มจากค่ายรถยนต์ที่จะมีโมเดลใหม่ออกมา ขณะที่ออเดอร์รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) เริ่มมีออเดอร์เข้ามาบางส่วน แต่เชื่อว่าจำนวนออเดอร์จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคตสอดคล้องกับปริมาณการใช้รถยนต์ EV ที่จะแพร่หลายขึ้น

สำหรับตลาดต่างประเทศยังมีแนวโน้มที่ดี อย่างจีน ยุโรป แม้ว่าปัจจุบันจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่คำสั่งซื้อรถยนต์ไม่ได้ลดลง ทำให้ยอดขายยังอยู่ระดับที่ดี ส่วนธุรกิจในประเทศมาเลเซีย ซึ่งบริษัทได้เข้าไปทำโชว์รูมในการจำหน่ายรถยนต์ โปรตอน เป็นรถยนต์ที่มีการใช้งานแพร่หลายในมาเซีย ทำให้เชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัทเพิ่มขึ้นได้

*ลุ้นพลิก Turnaround

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง AH ว่า คาดไตรมาส 4/2563 ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้านิสสันและอีซูซุ ที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตคาดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 70-75% ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ที่มาเลเซีย มีปัจจัยหนุนด้านการลดภาษีจากรัฐบาล ช่วยหนุนรายได้จากการจำหน่ายรถยนต์ที่มาเลเซียมากขึ้น

ด้วยผลประกอบการไตรมาส 3/2563 ที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด ทำให้มีการปรับประมาณการกำไรปี 2563 จากเดิมที่คาด ขาดทุน 362 ล้านบาท เป็นกำไรปกติ 82 ล้านบาท (-89% จากปีก่อน) จากการปรับสมมติฐานรายได้เพิ่มขึ้น 11% และปรับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 3.2% เป็น 7.1% และปี 2564 ปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น 55% เป็น 799 ล้านบาท (+874%) จากการปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้เพิ่มขึ้น 9% และปรับส่วนแบ่งเงินลงทุนในบริษัทร่วมจากเดิมี่ขาดทุน 111 ล้านบาท เหลือขาดทุน 38 ล้านบาท

*เคาะเป้าใหม่ 26.50 บาท

อย่างไรก็ดีคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยผลประกอบการที่พลิก Turnaround เร็วกว่าที่คาดไว้ และจะกลับมาเติบโตโดดเด่นในปี 2564 นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวก จากการที่นิสสันย้ายฐานการผลิตจากอินโดนีเซียมายังประเทศไทย โดย AH มีสัดส่วนรายได้จากนิสสัน สำหรับการผลิตชิ้นส่วน OEM ราว 4% ซึ่งมองว่ามีโอกาสได้ออร์เดอร์มากขึ้นการปรับมูลค่าพื้นฐาน ปี 2564 เพิ่มจากเดิมที่ 18.20 บาท เป็น 26.50 บาท