AHมั่นใจยานยนต์แข็งแกร่ง ดีลออเดอร์ตุนพอร์ตรายได้

#AH #ทันหุ้น – บิ๊ก AH” เย็บ ซู ชวน” ย้ำอุตสาหกรรมยานยนต์ยังแข็งแกร่ง แม้ว่าระยะสั้นจะชะลอตัวบ้าง เผยมีโรงงานรถยนต์อีวีเกิดขึ้นหลายแห่ง เดินหน้าเจรจาออเดอร์ต่อเนื่อง  มั่นใจธุรกิจเติบโต ตลาดต่างประเทศหนุน  ด้านโบรกคาดผลประกอบการใน ไตรมาส 2567 เป็นจุดต่ำสุด ส่วนครึ่งปีหลัง 2567 คาดผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรก  คงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2567 ที่ 1,417 ล้านบาท อัตราเงินปันผล 5.6% ราคาเป้าหมาย 31.10 บาท

นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ขณะนี้ แม้จะมีการชะลอตัวบ้าง แต่มองว่าเป็นปัจจัยระยะสั้น ซึ่งในเชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับมาฟื้นตัว โดยบริษัทผ่านวิกฤติมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นไม่มีความกังวลแต่อย่างใด และมั่นใจในพื้นฐานและศักยภาพธุรกิจ

นอกจากนี้ยังเดินหน้าในการเจรจาออเดอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง  โดยในส่วนของออเดอร์ยานยนต์ไฟฟ้า มีการเจรจาต่อเนื่อง แม้ขณะนี้ยอดขายอีวีจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ในส่วนกระแสของไฮบริดก็ได้การพูดถึงมากขึ้น แต่บริษัทก็ยืนยันว่ายังมีศักยภาพ สามารถส่งชิ้นส่วนยานยนต์ได้ทุกแบบ ทั้งรถสันดาป รถไฮบริด หรือรถไฟฟ้า (Ev Car) เป็นต้น

*โอกาสตลาดอีวีหนุน

อย่างไรก็ดีในส่วนของรถอีวี ต้องยอมรับว่าปัจจุบันยอดขายมีการชะลอตัวลง แต่หลายค่ายรถยนต์ก็มีการสร้างโรงงาน และด้วยเทรนด์ของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ก็เชื่อว่ายอดขายจะกลับมาเติบโตได้ เพราะการสร้างโรงงานก็ใช้ระยะเวลา 2-3 ปี ขณะเดียวกันบริษัทมีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาสนับสนุน ทำให้เข้ามาเสริมในช่วงที่ตลาดในประเทศชะลอตัวได้

อีกทั้งยังมีธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ก็ยังเติบโตได้ดี โดยบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี (MG) นอกจากนี้ยังมีฟอร์ด และมิตซูบิชิ อีกทั้งยังได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของ บริษัทฉางอัน ออโตโมบิล ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน ซึ่งมีการย้ายฐานการผลิตรถยนต์อีวีในไทย โดยกระแสตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าฉางอันนับว่าดี เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการผลักดันการเติบโตของบริษัทด้วย

“แม้ว่าภาพรวมของของอุตสาหกรรมยานยนต์ระยะสั้น จะชะลอตัวลงบ้าง แต่ระยะยาวยังเติบโตได้ บริษัทยังมีการเจรจาออเดอร์อย่างต่อเนื่องส่วนภาพรวมตลาดอีวีแม้จะชะลอตัวลงแต่ก็หลายค่ายรถยนต์ก็มีการสร้างโรงงานบริษัทก็มีการเจรจากับค่ายรถยนต์อีวีด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมาเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทต่อไปดังนั้นไม่ต้องกังวลถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมบริษัทผ่านช่วงที่วิกฤติมาแล้วหลายครั้งและยังสามารถเติบโตได้รวมไปถึงตลาดต่างประเทศที่จะเข้ามาส่งเสริมการเติบโตด้วยดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล“นายเย็บ ซู ชวน กล่าว

*ครึ่งปีหลังผลงานดีด

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง AH ว่า คาดผลประกอบการใน ไตรมาส 2/2567 ชะลอตัว จากไตรมาสก่อนหน้า และจากช่วงเดียวกันปีก่อนและเป็นจุดต่ำสุดของปี ส่วนครึ่งปีหลัง 2567 คาดผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรก คาดหวังผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ หนุนให้กำลังการผลิตดีขึ้นราว 5-10%

ส่วนธุรกิจของบริษัทย่อยมีแนวโน้มดีขึ้น โดยบริษัทย่อย AVEE ที่ร่วมกับพันธมิตรในกลุ่ม Proton มียอดขายเพิ่มขึ้น และกิจการร่วมทุน Purem AAPICO คาดผ่านจุดคุ้มทุนในปี นี้ หลังจากได้คำสั่งซื้อชิ้นส่วนระบบควบคุมไอเสียมากขึ้น เทียบปีก่อนที่บันทึกต้นทุนแต่รายได้ยังน้อยมาก ภาพรวมปี 2567 คงประมาณการกำไรปกติที่ 1,417 ล้านบาท(-20%YoY)

*ชูอัตราเงินปันผล 5.6%

ในด้านปัจจัยพื้นฐานฝ่ายวิจัย แนะนำ“ซื้อ” ด้วยราคาหุ้นที่เทรดที่ PER ต่ำเพียง 6x และคาด Yield ปันผลจากราคาปัจจุบัน 5.6% แต่ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำรอกลับเข้าลงทุนหลังประกาศงบ ไตรมาส 2/2566 ซึ่งคาดผลประกอบการจะต่ำสุดของปี ในเชิง Sentiment ราคาหุ้นยังมีโอกาสอ่อนตัว เราคงมูลค่าพื้นฐานที่ 31.10 บาท อิงวิธี PER โดยใช้ค่าเฉลี่ย 3 ปี (+ ESG Premium 2%) ที่ 7.8x