เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (14 เม.ย.2565)
ข่าววันนี้ สถานการณ์วิกฤต "รัสเซียยูเครน" ล่าสุดรัมซัน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชน เผย นาวิกโยธินยูเครนกว่า 1,000 นายในเมืองมาริอูโปล ส่วนประธานาธิบดี "ปูติน" ระบุ การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ถึงทางตันแล้ว อ่าน : เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (13 เม.ย.2565)
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (14 เม.ย.2565)
รัสเซียระบุ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธรัสเซียเกิดไฟไหม้บนเรือ
Reuters รายงานโดยอ้างสำนักข่าว Interfax ของรัสเซียว่า เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธของรัสเซีย ชื่อว่า “มอสควา” เกิดไฟไหม้บนเรือ ไฟลามไปติดเครื่องกระสุนที่เก็บอยู่บนเรือจนเกิดระเบิด สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เรือดังกล่าวขณะแล่นอยู่ในทะเลดำ
ส่วน Interfax รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้ยืนยันเหตุดังกล่าวแล้วในวันนี้ (14 เมษายน) ลูกเรือได้รับการอพยพปลอดภัย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ระบุสาเหตุการระเบิดของเครื่องกระสุนบนเรือว่า เกิดจากเหตุไฟไหม้บนเรือ ทำให้เรือดังกล่าวเสียหายหนักมาก ส่วนสาเหตุของไฟไหม้ยังอยู่ระหว่างสอบสวน
แต่ทางด้าน มัคซีม มาร์เชนโก ผู้ว่าการภูมิภาครอบเมืองท่าโอเดซา ติดทะเลดำของยูเครน อ้างว่า เรือมอสควาถูกยิงด้วยขีปนาวุธทำลายเรือ 2 ลูก แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันคำกล่าวอ้างนี้
เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธมอสควาของรัสเซียดังกล่าว เป็นเรือขนาดใหญ่ขนาด 12,500 ตัน มีลูกเรือราว 500 คน เป็นเรือธงในกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ทั้งนี้ เรือธง คือ เรือที่ผู้บัญชาการกองเรือโดยสารอยู่ และชักธงขึ้นตามยศของผู้บัญชาการ
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยูเครนเคยอ้างว่า สามารถทำลายเรือขนาดใหญ่สนับสนุนการยกพลขึ้นบกของรัสเซีย มีชื่อว่า “ออร์สก์” ได้ ขณะอยู่ในทะเลอาซอฟ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลดำ แต่ทางรัสเซียไม่เคยยืนยันหรือให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรือออร์สก์
รัมซัน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชน เผย นาวิกโยธินยูเครนกว่า 1,000 นายในเมืองมาริอูโปล
สำนักข่าว TASS รายงานอ้างคำกล่าวของรัมซัน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชน ที่เปิดเผยผ่านทาง Telegram ว่า นาวิกโยธินยูเครนกว่า 1,000 นาย พร้อมด้วยผู้บาดเจ็บหลายร้อยคนในเมืองมาริอูโปล ได้ยอมจำนนต่อกองทัพรัสเซีย
คาดีรอฟ บอกว่า เป็นการเลือกหนทางที่ถูกต้อง และกล่าวว่า นักรบยูเครนไม่รู้ถึงสิ่งที่ต้องทำกับอาการบาดเจ็บ พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อใคร และต้องทำอะไรต่อไป เพราะการต่อต้านยิ่งไร้ประโยชน์ และเกือบทั้งหมดไม่มีทางต่อสู้ได้เลย คงเหลือเพียงกองกำลังกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น
ผู้นำสาธารณรัฐเชชเนียในรัสเซีย ยังกล่าวเสริมด้วยว่า มีทหารบาดเจ็บหนักราว 200 นาย และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาและทุกคนคือ หยุดต่อต้านกองทัพรัสเซียอย่างไร้จุดหมาย และกลับไปหาครอบครัว
ก่อนหน้านี้ หน่วยสืบราชการลับของยูเครน เปิดเผยว่า พวกเขาจับวิคเตอร์ เมดเวดชุก ซึ่งเป็นเพื่อนใกล้ชิดประธานาธิบดีวลาดิเมีย์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และเป็นพันธมิตรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยูเครน ขณะที่ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยภาพของเมดเวดชุกในสภาพอิดโรยและถูกสวมใส่กุญแจมือ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยูเครนระบุว่า เมดเวดชุก หัวหน้าพรรคออพโพสิชัน แพลตฟอร์ม ฟอร์ ไลฟ์ ได้หลบหนีการถูกกักบริเวณในบ้านพัก และเมื่อปีที่แล้ว ยูเครนเปิดคดีกบฏต่อเมดเวดชุก แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา
ประธานาธิบดี "ปูติน" ระบุ การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ถึงทางตันแล้ว
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ (12 เมษายน) ว่า การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน มาถึงทางตันแล้ว กล่าวโทษว่าเป็นความผิดของฝ่ายยูเครน ที่ทำลายการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ ด้วยการกล่าวหารัสเซียซ้ำ ๆ ในสิ่งที่ไม่เป็นจริงในปฏิบัติการในยูเครน และยังเรียกร้องขอการรับประกันด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมยูเครนทั้งหมด ยูเครนได้ทำให้สถานการณ์หวนกลับไปสู่ทางตันซ้ำอีกครั้ง
สำนักข่าว Interfax รายงานว่า ปูตินกล่าวปกป้องปฏิบัติการรัสเซียในยูเครนว่า เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนและ “สูงส่ง” และไม่มีข้อสงสัยว่า ทหารรัสเซียจะต้องบรรลุเป้าหมายที่ “สูงส่ง” ทั้งหมด ในการปกป้องความมั่นคงของรัสเซีย รัสเซียจะยังคงปฏิบัติการต่อไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมั่นคง โดยมีเป้าหมายสุดท้ายทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด คือ ระเบียบโลกแบบขั้วเดียว ที่สหรัฐฯ เป็นผู้สร้างขึ้นมาหลังจากสงครามเย็น จะต้องล่มสลาย
นับเป็นการออกมากล่าวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีรัสเซีย ตั้งแต่ทหารรัสเซียถอนตัวออกไปจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน และจากภาคเหนือของยูเครน รวมถึงเป็นสัญญาณล่าสุดและหนักแน่นที่สุดจากผู้นำรัสเซีย ที่ชี้ว่า วิกฤตจะดำเนินต่อไป
ผู้นำรัสเซียกล่าวระหว่างเยือนสำนักงานอวกาศรัสเซีย วอสตอลนี คอสโมโดรม ตั้งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออก 5,550 กิโลเมตร ว่า เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้ เพราะต้องปกป้องชาวรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน และปกป้องยูเครน ซึ่งเคยร่วมอยู่ในอดีตสภาพโซเวียตมาด้วยกัน ไม่ให้กลายไปเป็น “สปริงบอร์ด” ของฝ่ายศัตรู เพื่อหันมาต่อต้านรัสเซีย ปูตินกล่าวโทษว่าเป็นเพราะความก้าวร้าวของประเทศตะวันตก และสิ่งที่เขาทำเพื่อปกป้องความมั่นคงของรัสเซีย
ปูตินยังระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของประเทศตะวันตก เป็นความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เศรษฐกิจรัสเซียกำลังจะประสบความถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 1991 ซึ่งเป็นปีที่อดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย
ทางฝ่ายยูเครน โดยมิคไฮโล โพโดแยค จากคณะเจรจาฝ่ายยูเครนและเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครน ออกแถลงการณ์ว่า การเจรจายากลำบากมาก แต่การเจรจายังดำเนินอยู่
ข้อมูล : TNN World
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี