BGRIM โบรกฯ คาดกำไร Q1/66 ฟื้น รับผลดีขึ้นค่า Ft-ต้นทุนก๊าซลดลง
#BGRIM #ทันหุ้น-บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นปีนี้ขึ้น 8.6% เพื่อให้สอดคล้องกับสมมติฐานค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่สูงขึ้น 0.8-2.3% ในปี 2566-2567 พร้อมราคาก๊าซที่ลดลง 6.8-11% ในขณะที่สมมติฐานอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยลดลงจากความต้องการที่คาดว่าจะลดลง โดยได้ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 47 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อนประมาณการกำไรต่อหุ้นปีนี้ที่สูงขึ้น
ฝ่ายวิจัยฟินันเซีย ไซรัส คาดว่ากำไรปกติของ BGRIM ในไตรมาส 1/66 จะฟื้นตัว เนื่องจากรับผลดีจากการขึ้นค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิงหรือค่า Ft และต้นทุนก๊าซที่ปรับลดลง ขณะที่กำไรทั้งปีนี้ คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือ SPP จากการขึ้นค่า Ft , ต้นทุนก๊าซที่ประหยัดได้ 6-10% จาก SPP ใหม่ 7 แห่งที่มีกำหนดทยอยเปลี่ยนมาใช้ไอน้ำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จนถึงปีนี้ และปริมาณไฟฟ้าและไอน้ำที่ขายให้แก่ผู้ใช้อุตสาหกรรม หรือ IU ที่สูงขึ้นส่วนมากจากความต้องการที่สูงขึ้น และ SPP ใหม่ 7 แห่ง และต้นทุนก๊าซที่ลดลง ในขณะที่แหลงเอราวัณ จะช่วยทดแทน LNG จากสหรัฐเพิ่มขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 BGRIM ซื้อหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 20 เมกะวัตต์ หรือ MW ในญี่ปุ่น โดยมีต้นทุนการลงทุนรวม 358.2 ล้านบาท ซึ่งจากข้อมูลของผู้บริหาร BGRIM คาดว่าจะได้กำลังการผลิตไฟฟ้าจากลมไม่เกิน 1,000 MW ในเกาหลีใต้ในช่วงปี 2566-2568
นอกจากนี้โรงไฟฟ้าพลังงานลม และแสงอาทิตย์ ของ BGRIM ยังมีแนวโน้มที่จะรายงานกำลังการผลิตเพิ่มจากการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาด 5.2 GW ที่กำลังจะมีขึ้นในไทย พร้อมกับโรงไฟฟ้าพลังงานลมและโครงการผลิตไฟฟ้าจาก LNG ภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับที่ 8 ของเวียดนาม ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับเป้ากำลังการผลิตรวมระยะยาวที่ 10 GW ในปี 2573 ซึ่งมากกว่า 50% จะมาจากพลังงานหมุนเวียน