เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (14 ส.ค. 2565)

รัฐบาลรัสเซียเตือนสหรัฐฯ จะยุติความสัมพันธ์สองประเทศ หากสหรัฐฯ ยึดทรัพย์รัสเซีย

สำนักข่าว Tass รายงานอ้างคำกล่าวของอเล็กซานเดอร์ ดาร์เชฟ หัวหน้าฝ่ายอเมริกาเหนือสังกัดกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ที่เปิดเผยว่า เป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะยึดทรัพย์ของรัสเซีย แต่จะทำลายความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างสิ้นเชิงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ หลังความสัมพันธ์ของสองประเทศเสื่อมถอยอย่างมาก นับตั้งแต่รัสเซียดำเนินการปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้ชาติตะวันตกตอบโต้ ด้วยการคว่ำบาตรเศรษฐกิจ, การเงิน และการทูต รวมถึงอายัดทองคำและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซีย ประมาณครึ่งหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของชาติตะวันตก รวมถึงโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้เสนอแนะให้มีการยึดทรัพย์ที่เป็นทุนสำรองเงินตราของรัสเซียที่อายัดเอาไว้ เพื่อนำไปเป็นกองทุนบูรณะยูเครนในอนาคต แต่ดาร์เชฟ เตือนอเมริกาถึงผลอันตรายที่ตามมา เช่น จะสร้างความเสียหายอย่างถาวรต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี  

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป ได้อายัดทรัพย์สิน มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว  1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นของเศรษฐีหลายคนที่เป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน  ผู้นำรัสเซีย รวมถึงเรือยอชต์, เฮลิคอปเตอร์, อสังหาริมทรัพย์ และงานศิลปะ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังขอการอนุมัติจากสภาคองเกรส เพื่อยึดทรัพย์สินของกลุ่มคนชั้นนำในรัสเซีย เพื่อกดดันรัสเซียที่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน แต่ดาร์เชฟ กล่าวว่า รัสเซียขอเตือนสหรัฐฯ ว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และจะถึงขั้นแตกหัก หากรัสเซียถูกประกาศให้เป็นรัฐสนับสนุนก่อการร้าย

ดาร์เชฟ กล่าวถึงสถานการณ์ในยูเครนว่า สหรัฐฯ มีอิทธิพลต่อยูเครน และกำลังเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยตรงในความขัดแย้งมากขึ้น

ข้อมูล TNN World

ภาพ: Reuters