รีเซต

3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นภาคบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นภาคบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
ทันหุ้น
25 พฤศจิกายน 2568 ( 13:36 )
1

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า แนวโน้มดอกเบี้ยโลกชัดเจนมากขึ้น หลัง FED Watch Tool เพิ่มน้ำหนักเป็น 80.90% ที่เฟด จะปรับลงดอกเบี้ย 0.25% ลงสู่ระดับ 3.75% ในรอบการประชุม 10ธ.ค. นี้ สะท้อนที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลงจาก 4.086% แตะ 4.040% ดังนั้นคืนนี้ตามเวลาไทย 22.00 น. จับตาความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน พ.ย.ของ CB Consumer Confidence Consensus คาดลดลงแตะ 93.5 จาก ต.ค. ที่ 94.6 และ 26 พ.ย. เวลา 20.30 น. จีดีพีไตรมาส 3/68 รวมทั้งจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งจะบ่งชี้สัญญาณที่ชัดเจนต่อทิศทางดอกเบี้ย และอาจผลักดันแนวทางพิจารณาดอกเบี้ยของ กนง. รอบ 17 ธ.ค. นี้ เช่นกัน

-ความสัมพันธ์ทางการค้าสหรัฐฯ-จีน มีสัญญาณเชิงบวก 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ทรัมป์และสี จิ้นผิง ได้หารือทางโทรศัพท์ครอบคลุมการค้า, ไต้หวัน และสงครามยูเครน โดยมีข้อตกลงซื้อขายถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรอื่น ๆจากสหรัฐฯ + หารือความร่วมมือสกัดกั้นการลักลอบส่งเฟนทานิลเข้าสหรัฐฯ ขณะเดียวกันทรัมป์ตอบรับยืนจีน เม.ย. 2569 และ สีจิ้นผิง ตกลงเยือนสหรัฐฯ ปลายปี2569เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก แม้ยังมีประเด็นท้าทาย เช่น ไต้หวันและมาตรการควบคุมการส่งออก ระยะสั้นเก็งกำไรหุ้น China Play (อิเล็กทรอนิกส์, ปิโตรเคมี, พลังงาน) และ นิคมอุตสาหกรรม ระยะกลาง-ยาวเน้นหุ้นที่มีรายได้ในประเทศสูงและหุ้นส่งออกอาหาร

-วาระประชุม ครม. กระทรวงคมนาคม เสนอค่าโดยสาร 40 บาทตลอดวัน สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ–รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน และรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน–คลองบางไผ่ เพื่อผลักดันนโยบายลดค่าครองชีพบวกตรงต่อหุ้น BTS, BEM บวกอ้อมต่อหุ้น SPALI, SIRI, LH และ AP ORI

-ส่งออก ต.ค. ของไทยต่ำคาด โดยขยายตัว 5.7%YoY คาด 6.5% แต่นำเข้าโต 16.3%YoY สูงกว่าคาดที่ 8.3% กดดุลการค้าขาดดุล -3,440 ล้านเหรียญฯ สูงกว่าคาดที่ -1,149 ล้านเหรียญฯ เปิดโอกาสต่อการปรับลงดอกเบี้ย เพื่อลดแรงกดจาก Technical Recession

-บ่ายคาด SET INDEX วิ่งช่วง 1,262-1,279 จุด

บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวขึ้นได้ ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ มีแรงซื้อบิ๊กแคปกลับเข้ามา ทั้งกลุ่มอิเล็กฯ ธนาคาร โรงไฟฟ้า และค้าปลีก โดยเฉพาะแรงซื้อ DELTA หนุนดัชนีไปกว่า 7.4 จุด จากความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 9-10 ธ.ค.นี้ ด้าน FedWatch Tool บ่งชี้ความเป็นไปได้สูงถึง 80% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25%

อย่างไรก็ดี ปัจจัยภายในยังน่ากังวล โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ก.พาณิชย์รายงาน ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. +5.7% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 6.5% ขาดดุลการค้า 3.4 พันล้านดอลลาร์ เป็นผลมาจากการเร่งส่งออกในเดือนก่อนหน้า (ก.ย. +19%) ทำให้ประเทศคู่ค้ามีสต็อกสินค้าในปริมาณสูง

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีเปิดบวกปรับตัวขึ้น มีแนวต้านที่ 1,270/1,280 จุด แนวรับระหว่างวันที่ 1,260/1,250 จุด ไม่ควรต่ำกว่า

บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีภาคบ่ายได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ อย่างไรก็ตามยอดส่งออก ต.ค. เติบโตเหลือ 5.7% และยอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ 3.4 พันล้านดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดัน มองกรอบดัชนีภาคบ่าย 1,257-1,275 จุด

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศโดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย DELTA ซึ่งหนุนดัชนีปรับขึ้นราว 7 จุด ตามด้วยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มขนส่ง และพลังงาน ขณะที่มีแรงกดดันจากยอดส่งออกไทยเดือนต.ค. โตเหลือ 5.7% อีกทั้งขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ 3.4 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,267.22 จุด บวก 14.49 จุด หรือ 1.16% มูลค่าการซื้อขาย 19,597.14 ล้านบาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง