รีเซต

กรมอุทยาน ประกาศครั้งสุดท้าย ให้นายทุนรีสอร์ตดัง จ.กาญจนบุรี รื้อถอนภายใน 7 วัน

กรมอุทยาน ประกาศครั้งสุดท้าย ให้นายทุนรีสอร์ตดัง จ.กาญจนบุรี รื้อถอนภายใน 7 วัน
มติชน
10 กันยายน 2563 ( 11:25 )
214
กรมอุทยาน ประกาศครั้งสุดท้าย ให้นายทุนรีสอร์ตดัง จ.กาญจนบุรี รื้อถอนภายใน 7 วัน

เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพีนธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)เปิดเผยว่าตามนโยบาย ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส.นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส.นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ กับนายทุนผู้บุกรุกป่า อย่างเด็ดขาด

 

จากนโยบายดังกล่าว ในวันนี้ จึงได้สั่งการให้นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จำนวน 10 นาย ไปติดป้ายประกาศคำเตือนครั้งสุดท้าย ลงวันที่ 10 กันยายน ให้นายทุนเจ้าของรีสอร์ต นายกิตติพงศ์ ต้นสมบูรณ์ และนางสมหวัง ต้นสมบูรณ์ อดีตข้าราชการครู รื้อถอนรีสอร์ต “กระท่อมริมธาร” เลขที่ 8/7 หมู่ที่ 2 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 14 หลัง ที่ได้ปลูกสร้างบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เนื้อที่ 2 ไร่ 1งาน 45 ตารางวา ไปใหพ้นจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ภายใน 7 วัน นับแต่วันประกาศคำเตือนครั้งสุดท้าย

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า หลังจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้มีประกาศคำสั่งรื้อถอนที่104/2560 ลงวันที่ 7 กันยายน 2560 และประกาศคำเตือนที่ 28/ 2563 ลงวันที่15 เม.ย 2563 เจ้าของรีสอร์ต ดังกล่าว ยังดื้อแพ่ง ไม่ยอมรื้อถอน จึงได้สั่งการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มาติดป้ายประกาศคำเตือน ลงวันที่ 10 กันยายน 2563 อีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย หากครั้งนี้ยังดื้อแพ่งไม่ยอมรื้อถอนภายใน 7 วัน ตามประกาศคำเตือนครั้งสุดท้ายแล้ว ทางหัวหน้าอุทยานเขาแหลม จะเข้าทำการรื้อถอนรีสอร์ทดังกล่าว จำนวน 14 หลัง โดยทันที และนำพื้นที่ดังกล่าว มาฟื้นฟูกลับคืนมาเป็นสภาพป่าตามธรรมชาติดังเดิมกลับคืนมาเป็นสมบัติของคนไทยทุกๆคนต่อไป

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ยังได้รับจดหมายลงวันที่ 24 สิงหาคม 2563 จากนายกมนพฒน์ อุปการ ทนายความ สำนักงาน ธนเดช 10/5 หมู่ที่ 7 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก อ้างทำนองว่า ที่ดินรีสอร์ต ดังกล่าว เป็นของนายสมาน หงษ์เอี่ยม ซึ่งเป็นบุคคลผู้ยากไร้ กำลังขออนุญาตทำประโยชน์ และอยู่อาศัย ในที่ดินรีสอร์ต ดังกล่าว ต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤศจิกายน 2563 ขอให้ทางผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) หรือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีคำสั่งระงับการดำเนินการรื้อถอน รื้อสอร์ท ในที่ดินดังกล่าวไว้ก่อน หากมีการรื้อถอนรีสอร์ทดังกล่าวแล้ว จะสร้างความเดือดร้อน และเสียหาย ให้แก่นายสมาน หงษ์เอี่ยม บุคคลผู้ยากไร้ เป็นอย่างมาก ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องเป็นคดีความทั้งทางแพ่ง และทางอาญาอย่างถึงที่สุด

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ที่ดินรีสอร์ตดังกล่าว ตามที่นายกมนพฒน์ ทนายความ กล่าวอ้างว่าเป็นของนายสมาน หงษ์เอี่ยม นั้น เป็นที่ดินรีสอร์ตแปลงเดียวกันของนายกิตติพงศ์ฯที่ได้ถูกหัวหน้าอุทยานแห่งเขาแหลม ตรวจยึดพื้นที่ พร้อมรีสอร์ทจำนวน 14 หลัง และถูกแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหา ยึดถือ ครอบครอง ที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมโดยมิได้รับอนุญาต ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 ต่อมาศาลอาญาจังหวัดทองผาภูมิ ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 227/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 223/2560 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2560 พิพากษาว่า นายกิตติพงษ์ฯจำเลย มีความผิด ฐาน ยึดถือ ครอบครอง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมโดยมิได้รับอนุญาต ลงโทษ จำคุก 6 เดือน และปรับ 2 หมื่นบาท โทษจำคุก ให้รอลงอาญา และให้นายกิตติพงศ์ฯ จำเลย คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทนและบริวารออกจากป่าที่เกิดเหตุ และให้นายกิตติพงศ์ฯจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 101,499 บาท นายกิตติพงศ์ฯจำเลยไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุด

 

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า จากคำพิพากษาศาลอาญาจังหวัดทองผาภูมิ เมื่อคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติว่า นายกิตติพงศ์ ต้นสมบูรณ์ เป็นผู้ครอบครองที่ดินรีสอร์ทที่ผิดกฎหมายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมดังกล่าว การที่นายกลมพัฒน์ฯทนายความ อ้างทำนองว่า นายสมานฯ บุคคลผู้ยากไร้ เป็นผู้ครอบครองที่ดินรีสอร์ทดังกล่าว จึงขัดกับข้อเท็จจริงเป็นอันยุติแล้ว และทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จึงให้ทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นัดนายกลมพัฒน์ฯทนายความ นำนายสมานฯ มาชี้แนวเขต และยืนยันว่านายสมานฯเป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินรีสอร์ทดังกล่าว ในวันที่ 25 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.ณ.บริเวณที่ดินรีสอร์ต ดังกล่าว จังหวัดกาญจนบุรี ทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลมจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับนายสมานฯ และผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง